สาธารณสุขเตือน อย่าตกเป็นเหยื่อยาลดน้ำหนัก
นายแพทย์ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขเตือนอย่าตกเป็นเหยื่อยาลดน้ำหนัก โดยเฉพาะยาไซบูทรามีน(ไซ-บู-ทรา-มีน) มีผลต่อหลอดเลือดและหัวใจ อาจทำให้หัวใจวาย ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ยกเลิกการใช้แล้ว แต่ในท้องตลาดยังมีการลักลอบนำเข้าผสมในเครื่องดื่ม อาหารเสริม โฆษณาชวนเชื่อว่าลดน้ำหนักได้ผล ปัจจุบันผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักตัวมาก อ้วน นิยมใช้ยาลดน้ำหนัก มากกว่าวิธีการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย เพราะเชื่อว่าได้ผลเร็ว ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด โดยไม่ได้คำนึงถึงอันตรายที่เกิดจากการใช้ยา ทำให้บางรายได้รับผลข้างเคียงจากยาจนเสียชีวิต ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนบ่อยๆ
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ยาลดน้ำหนัก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ แยกตามตำแหน่งการออกฤทธิ์ของยา คือ
1.ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบร่างกาย คือ ยาไซบูทรามีน (Sibutramine) ซึ่งถูกระงับ เพิกถอนทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย เพราะพบว่าเป็นอันตรายต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ มีโอกาสจะหัวใจวายได้ แต่มียาไซบูทรามีนปลอมผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยจำนวนมาก มีข้อมูลว่ามีการลักลอบนำไปผสมในอาหารพวกเครื่องดื่ม อาหารเสริม ที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์ว่า รับประทานแล้วน้ำหนักลด หุ่นสวย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะไม่อนุญาตให้ผสมเข้าไปในเครื่องดื่มและอาหารเสริม บางรายแอบขายโดยไม่ขออนุญาต หรือขออนุญาตผสมสูตรหนึ่ง แต่เวลาผลิตแอบเติมยาไซบูทรามีนเข้าไป ข้อสังเกตง่ายๆ คือถ้ามีการนำไปผสมในอาหารเสริม เครื่องดื่ม จะมีการโฆษณาว่าลดความอ้วนได้ผล ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่ามีการผสมยาไซบูทรามีน โดยยาตัวนี้หากรับประทานเข้าไปจะมีผลข้างเคียง คือ มีอาการใจสั่น ไม่มีอาการหิวอาหาร หดหู่ ถ้าหลงรับประทานเข้าไปต้องหยุดทันที หากรับประทานต่อจะเป็นอันตรายต่อหัวใจ โดยเฉพาะผู้ที่อ้วนมากๆ ผู้มีโรคประจำตัว สุขภาพไม่แข็งแรง โอกาสที่จะหัวใจวายเฉียบพลันมีมาก
2.ยากลุ่มออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ซึ่งอยู่ในความดูแลของ อย. จำหน่ายได้เฉพาะในสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ ไม่มีจำหน่ายในร้านขายยา
นายแพทย์ภาสกร ไชยเศรษฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ต้องตรวจสอบตนเองก่อนว่า น้ำหนักเกิน อ้วนจริงหรือไม่ โดยดูที่ค่าดัชนีมวลกาย ใช้น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัมหารด้วยความสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง หากเกิน 25 ก็เข้าข่ายอ้วน แนะนำให้ใช้วิธีควบคุมอาหาร ลดหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกาย ไม่รับประทานอาหารจุกจิก ถ้าหิวควรรับประทานผลไม้ จะช่วยลดน้ำหนักได้ถาวร แต่หากอ้วนมาก ต้องการลดน้ำหนักด้วยยา ควรรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด อย่าซื้อยารับประทานเอง.
พิมลสิริ มณีฉาย ข่าว
|