|
โรคที่มากับน้ำท่วม รู้ไว้
ป้องกันได้
นายแพทย์ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ช่วงนี้จังหวัดของประเทศไทยจมอยู่ใต้บาดาล เนื่องจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องกันมาหลายวัน และโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จะมีปริมาณน้ำจากจังหวัดชัยภูมิที่ไหลลงสู่แม่น้ำชีก้อนแรก คาดว่าปริมาณน้ำก้อนใหญ่จากจังหวัดชัยภูมิจะเดินทางมาถึงในเขตอำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ภายในระยะ 3 4 วันข้างหน้านี้ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำชีสูงขึ้นอีกประมาณ 0.20 0.50 เมตร จากนั้นจะไหลลงสู่ในเขตอำเภอทุ่งเขาหลวง อำเภอเสลภูมิ อำเภออาจสามารถ และอำเภอพนมไพร ก่อนจะไหลเข้าสู่จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณน้ำดังกล่าว จะใช้เวลาในการไหลผ่านในเขตจังหวัดร้อยเอ็ดประมาณ 7 10 วัน จึงได้มีความห่วงใยในสุขภาพของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้ห่างไกลโรคที่มาจากน้ำท่วมด้วย
โรคที่มากับน้ำท่วม รู้ไว้
ป้องกันได้
1.โรคฉี่หนู (หรือโรคเลปโตสไปโรซิส) และโรคน้ำกัดเท้า
อาการโรคฉี่หนู มีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะบริเวณน่องและโคนขา หรือปวดหลัง บางรายมีอาการตาแดง มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง ไอมีเลือดปน ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะน้อย ซึม สับสน
อาการโรคน้ำกัดเท้า เท้าเปื่อยและเป็นหนอง คันตามซอกนิ้วเท้า ผิวหนังลอกเป็นขุย มีผื่นพุพอง ผิวหนังอักเสบบวมแดง
วิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงการลุยน้ำย่ำโคลนโดยไม่จำเป็น ถ้ามีบาดแผลต้องป้องกันไม่ให้สัมผัสถูกน้ำโดยสวมรองเท้าบู๊ทยาง หากต้องลุยน้ำย่ำโคลนต้องรีบล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่แล้วเช็ดให้แห้งอยู่เสมอโดยเร็วที่สุด
2.โรคตาแดง
อาการ ระคายเคืองตา ปวดตา น้ำตาไหล กลัวแสง มีขี้ตามาก หนังตาบวม เยื่อบุตาขาวอักเสบแดง อาจเริ่มที่ตาข้างหนึ่งก่อน แล้วจึงลามไปตาอีกข้างหนึ่ง
วิธีป้องกัน ถ้ามีฝุ่นละอองหรือน้ำสกปรกเข้าตาต้องรีบล้างด้วยน้ำสะอาดทันที ไม่ควรขยี้ตา อย่าให้แมลงตอมตา และไม่ควรใช้สายตามากนัก ผู้ป่วยโรคตาแดงควรแยกจากคนอื่นๆ และไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับคนอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาด
3.ไข้เลือดออก
อาการ ไข้สูงลอย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หน้าแดง อาจมีจุดแดงเล็กๆ ตามลำตัว แขน ขา
วิธีป้องกัน ระวังอย่าให้ยุงกัดในเวลากลางวันโดยนอนในมุ้ง ทายากันยุง กำจัดลูกน้ำและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้านทุกสัปดาห์ โดยปิดฝาภาชนะเก็บน้ำ คว่ำหรือทำลายภาชนะไม่ให้มีน้ำขัง
4.อุบัติเหตุและการถูกสัตว์ร้ายมีพิษกัดต่อย
อุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้นช่วงน้ำท่วม ได้แก่ ไฟดูด จมน้ำ การบาดเจ็บจากการเหยียบของแหลม หรือของมีคม อันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ซึ่งหนีน้ำมาหลบอาศัยในบริเวณบ้านเรือนวิธีป้องกัน ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า สับคัทเอาท์ตัดไฟฟ้าในบ้าน ก่อนที่น้ำจะท่วมถึง เก็บกวาดขยะ วัตถุแหลมคม ในบริเวณอาคารบ้านเรือน และตามทางเดิน อย่างสม่ำเสมอ และระมัดระวังดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด
5.โรคทางเดินหายใจ (เช่น หวัด หวัดใหญ่ ปอดบวม)
อาการ ครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ ปวดศีรษะ คัดจมูก มีน้ำมูก ไอ จาม เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
วิธีป้องกัน ดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน ไม่สวมเสื้อผ้าที่เปียกชื้น เช็ดตัวให้แห้งอยู่เสมอ และสวมเสื้อผ้าให้หนาพอหากอากาศเย็น หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นหวัด ปิดปากและจมูกด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชูเวลาไอหรือจาม ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่
6.โรคทางเดินอาหาร (เช่น อุจจาระร่วง อหิวาตกโรค อาหารเป็นพิษ บิด ไทฟอยด์)
อาการ ถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำ หรือถ่ายมีมูกเลือด ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร
วิธีป้องกัน รับประทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด ไม่บูดเสีย อาหารกระป๋องยังไม่หมดอายุ กระป๋องไม่บวมหรือเป็นสนิม ดื่มน้ำสะอาด เช่น น้ำต้มสุก น้ำขวด ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ก่อนปรุงและเตรียมอาหาร ก่อนรับประทานอาหารและหลังการขับถ่าย ห้ามถ่ายลงในน้ำโดยตรงเด็ดขาด ให้ถ่ายใส่ถุงพลาสติกแล้วใส่ปูนขาวพอสมควร ปิดปากถุงให้แน่น ใส่ลงถุงขยะอีกครั้ง แล้วนำไปทิ้งบริเวณที่จัดไว้หรือรวบรวมไว้เพื่อรอการนำไปจัดการอย่างถูกวิธี.
หากท่านมีอาการเจ็บป่วยให้รีบปรึกษาแพทย์
บทความโดย
พิมลสิริ มณีฉาย
ที่มา
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
|
|
|