สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เตือนประชาชนรับประทานกินเนื้อวัว ควาย สดๆ ดิบ ๆ เสี่ยงโรคพยาธิ เช่น ตืดวัวควาย โรคโปรโตซัวในลำไส้ซาร์โคซิสติส นอกจากนี้มีโรคแบคทีเรียอื่นๆ เช่น โรคแอนแทรกซ์ ซาลโมเนลลา แคมไพโลแบคเตอร์ อีโคไล ฯลฯ แถมท้ายด้วยโรคที่เป็นเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้าได้ด้วย
ในการรับประทานอาหารประเภทเนื้อวัว-ควายสดๆ อาทิเช่น เนื้อวัวดิบ จิ้มแจ่ว ซอยจุ๊ ลาบดิบ ก้อย ซอยห่าง แหนมดิบ (อาหารอีสาน) ลาบดิบ ส้า จิ้นส้ม (อาหารเหนือ) มีการกล่าวอ้างว่าเป็นมรดกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นวัฒนธรรมการกินอันยิ่งใหญ่ระดับโลก สำหรับคนที่คิดอยากลองหรือคนที่ชอบความหวานของการกินลาบวัว-ควายดิบ ข้อมูลเตือนภัยโรคพยาธิที่พบบ่อย โรคพยาธิตัวตืดวัว-ควาย เกิดจากการกินตัวอ่อนพยาธิเรียกว่า เม็ดสาคูในเนื้อ ตัวอ่อนเจริญเป็นตัวเต็มวัยในลำไส้ รูปร่างคล้ายก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ยาว 5-10 เมตร อาจยาว 25 เมตร มี 1,000-2,000 ปล้อง ปล้องสุกจะหลุดออกมา 3-4 ปล้องกับอุจจาระ หรือคืบคลานออกจากทวารหนักในแต่ละวัน อายุอยู่ในลำไส้คน 10-25 ปี พยาธิจะแย่งอาหารในลำไส้ คนติดโรคจะมีอาการหิวบ่อย ปวดบริเวณลิ้นปี่ ไม่สบายท้อง อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน บางครั้งท้องร่วง ท้องผูก น้ำหนักตัวลดลง ปล้องสุกที่หลุดออกมาอาจเข้าไปไส้ติ่ง ทำให้ไส้ติ่งอักเสบ หรืออาจรุนแรงจนถึงแก่ความตายได้
ข้อแนะนำประชาชน ให้ใช้หลักมาตรฐานอาหารปลอดภัย ควรจะเลือกซื้อเนื้อวัว-ควายที่ผ่านการตรวจจากโรงฆ่าสัตว์แล้วเท่านั้น รับประทานอาหารต้ม ปิ้งย่าง เนื้อสัตว์ให้สุกอย่างทั่วถึง โดยยึดหลัก สุก ร้อน สะอาด สุกด้วยความร้อน หรือผ่านการทำลายตัวอ่อนพยาธิ เช่น ฉายรังสี หรือเก็บเนื้อไว้ในตู้เย็นลบ 20 องศา นานเกิน 12 ชั่วโมง สำหรับผู้ปรุง ประกอบอาหาร ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดี ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนก่อนปรุง/รับประทานอาหาร และหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้ง
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
4 สิงหาคม 2565
ที่มาของข้อมูล กรมควบคุมโรค ทองสุข โพนเงิน บรรณาธิการข่าว
https://www.facebook.com/photo/?fbid=578715137053524&set=a.105584184366624
|