สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด แนะประชาชนหน้าร้อนนี้ให้พาสุนัข-แมวไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมระวังตนเองและบุตรหลานไม่ให้ถูกสุนัข-แมว กัดหรือข่วน หากโดนกัด-ข่วนแม้มีแผล เพียงเล็กน้อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแนะประชาชนให้ยึดหลัก คาถา 5 ย. ป้องกันการถูกสุนัขกัด
โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เชื้อจะเข้าทางบาดแผล ผ่านทางกัด ข่วน เลีย หรือสัมผัสกับน้ำลายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทุกชนิดที่มีเชื้อ โดยสัตว์ที่พบเป็นโรคพิษสุนัขบ้าบ่อยที่สุดคือสุนัข รองลงมาคือแมวและโค โรคนี้สามารถพบได้ตลอดทั้งปี ระยะตั้งแต่รับเชื้อถึงแสดงอาการอาจยาวนานตั้งแต่ 1 สัปดาห์ จนถึง 1 ปี อาการในคน คือ มีไข้ ปวดศีรษะ คันรุนแรงบริเวณบาดแผล คลุ้มคลั่ง กลืนอาหารไม่ได้โดยเฉพาะของเหลว และหายใจลำบาก เนื่องจากกล้ามเนื้อกระบังลมเป็นอัมพาต เมื่อผู้ติดเชื้อแสดงอาการแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ และเสียชีวิตทุกราย
โรคพิษสุนัขบ้าสามารถป้องกันได้ โดย 1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่ไม่ทราบประวัติการฉีดวัคซีน และนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี 2.ป้องกันไม่ให้สุนัขกัดหรือทำร้าย ด้วยหลัก คาถา 5 ย. ดังนี้ อย่าแหย่ อาจโดนกัดหรือข่วนได้ อย่าเหยียบ บริเวณลำตัว ขา หรือหางของสัตว์ อย่าแยก สัตว์ที่กำลังกัดกัน อย่าหยิบ อาหารขณะสัตว์กำลังกิน และ อย่ายุ่ง กับสัตว์ที่ไม่รู้จักคุ้นเคย และ 3.หากถูกสุนัขหรือแมว กัด-ข่วน ขอให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่หลายๆ ครั้ง อย่างเบามือ ใส่ยาฆ่าเชื้อที่บาดแผลทันทีหลังล้างแผลเสร็จ จากนั้นไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และให้กักสุนัข-แมว 10 วัน เพื่อสังเกตอาการ หากสัตว์ตายให้รีบแจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่ เพื่อส่งตรวจหาโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ ที่สำคัญ ควรฉีดวัคซีนตามแพทย์นัดให้ครบชุด
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
18 มีนาคม 2565
ข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ทองสุข โพนเงิน บรรณาธิการข่าว
https://www.facebook.com/photo/?fbid=489561435968895&set=a.105584184366624
|