โรคเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ หรือร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้อวัยวะเสื่อมสมรรถภาพ และทำงานล้มเหลว เป็นเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ตา ไต หลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง ซึ่งปัจจัยเสี่ยง ที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน มีดังต่อไปนี้
1. ปัสสาวะบ่อยและมาก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงเกินขีดจำกัดของไต ทำให้น้ำตาลถูกขับออกทางปัสสาวะและดึงน้ำออกมา
2. คอแห้ง กระหายน้ำ เมื่อร่างกายเสียน้ำเพราะปัสสาวะบ่อย
3. หิวบ่อย กินจุ ร่างกายไม่สามารถนำกลูโคสไปใช้เป็นพลังงานได้ จึงมีการสลายเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ มาใช้เป็นพลังงาน
4. น้ำหนักลด เนื่องจากต้องสลายไขมัน และโปรตีนที่สะสมไว้เป็นพลังงานทดแทนกลูโคส ทำให้สูญเสียเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อฝ่อ น้ำหนักลดลง
5. เป็นแผลง่ายและหายยาก อาจมีอาการเนื้อเน่าตามปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า เนื่องจากหลอดเลือดตีบตัน และปลายประสาทเสื่อม
6. คันตามผิวหนัง เนื่องจากผิวแห้ง หรือเป็นเชื้อราบริเวณซอกอับของร่างกาย เช่น ขาหนีบ อวัยวะเพศ ติดเชื้อง่ายกว่าคนปกติ
7. ตามัว ชาตามปลายมือ ปลายเท้า และความรู้สึกทางเพศลดลง เนื่องจากความเสื่อมของปลายประสาท
คำแนะนำในการป้องกันโรคเบาหวาน ได้แก่ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เลี่ยงรสหวาน มัน เค็ม งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ มีกิจกรรมทางกายและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม หากมีอาการของโรคเบาหวาน เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ หิวบ่อย กินจุ น้ำหนักลด เป็นแผลง่ายหายยาก หรือชาปลายมือปลายเท้า ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย นอกจากนี้ ถ้ามีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน ควรดูแลใส่ใจเรื่องการควบคุมอาหาร การรับประทานยา การเข้ารับการตรวจตามนัด และสังเกตอาการป่วยที่อาจผิดปกติ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
29 พฤศจิกายน 2564
ข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/photo/?fbid=424225499169156&set=pcb.424225639169142
|