เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2552 ที่อาคารศูนย์ประชุม สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา รองประธานบริหาร รพ.จุฬาภรณ์ รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายการแพทย์ และ นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการความร่วมมือการพัฒนาระบบการป้องกันและควบคุมมะเร็ง ระหว่าง รพ. จุฬาภรณ์ กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล แด่ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงตระหนักถึงผลกระทบของโรคมะเร็งต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศและทรงมีพระปณิธานช่วยเหลือคนไทยที่ทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็ง มาโดยตลอด
ปี 2550 สถิติอัตราการเสียชีวิตของคนไทยด้วยโรคมะเร็ง จำนวน 53,434 ราย อันดับ1คือ มะเร็งปอด มะเร็งหลอดลม มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก โดยมะเร็งลำไส้ใหญ่-ทวารหนัก และ มะเร็งหลอดอาหาร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จังหวัดร้อยเอ็ด พบผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีสูงเป็นอันดับ 1 มาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ทั่วโลก เมื่อปี 2548 มีผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งสูงถึง 7.6 ล้านคนและจะเพิ่มเป็น 11 ล้านคน ในปี 2563
จังหวัดร้อยเอ็ด จึงเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่จะดำเนินการในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2553- 2557 โดยมีเป้าหมาย 10,000 คน เน้นมะเร็ง 2 กลุ่มคือ มะเร็งลำไส้ใหญ่-ทวารหนักและมะเร็งตับ-ท่อน้ำดี ในกลุ่มอายุ 50 ปี ขึ้นไปและกลุ่มเสี่ยงในชุมชน เพราะเป็นวัยที่พบมะเร็งมากที่สุด เช่น มีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ คนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งบุคลากรจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับโรงพยาบาลร้อยเอ็ดและศัลยแพทย์รพ.จุฬาภรณ์พร้อมอุปกรณ์ ตรวจคัดกรอง ตรวจอุจจาระหาเซลล์เม็ดเลือด หากพบว่าผิดปกติจะตรวจยืนยันส่องกล้องลำไส้ใหญ่และทวารหนัก พร้อมส่งตัวเข้ารับการรักษา ที่ รพ. ร้อยเอ็ด และ รพ.จุฬาภรณ์ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว จะสามารถลดการเสียชีวิตได้ ถึงร้อยละ 40
|