นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษจากการรับประทานเห็ดมีพิษ ว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วย จำนวน 36 ราย (อัตราป่วย 2.75 ต่อประชากรแสนคน) อำเภอที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ อ.พนมไพร 8 ราย /อ.สุวรรณภูมิ 4 ราย/ อ.เมืองร้อยเอ็ด เสลภูมิ โพธิ์ชัย อาจสามารถ อำเภอละ 3 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต พบผู้ป่วยมากที่สุดในเดือนกันยายน 24 ราย เนื่องจากมีเห็ดป่าเกิดขึ้นมากที่สุด/ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป โดยเริ่มพบผู้ป่วยรายแรกในเดือน พฤษภาคม 2564
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด มีความห่วงใยต่อประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ชอบการรับประทานเห็ดป่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เนื่องจากเห็ดป่ามีทั้งเห็ดที่สามารถนำมากินได้และเห็ดที่มีพิษซึ่งมีลักษณะคล้ายกันมาก อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ เมื่อนำมาปรุงเป็นอาหารรวมกับเห็ดชนิดอื่น อาจทำให้เกิดพิษได้ โดยเฉพาะเห็ดที่ยังดอกตูม จะแยกชนิดของเห็ดไม่ได้ว่าเป็นเห็ดมีพิษหรือเห็ดที่สามารถกินได้ โดยพิษของเห็ดที่กินเข้าไปจะไปสะสมอยู่ในตับ ทำให้ตับวายและอาจเสียชีวิตได้ใน 14 วัน เห็ดพิษไม่สามารถทำลายพิษได้ด้วยความร้อน ประชาชนจึงควรระมัดระวังในการนำเห็ดป่ามารับประทาน อาการที่สังเกตได้หลังรับประทานเห็ดพิษ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ปวดท้อง เป็นตะคริวที่ท้อง ภายใน 6-24 ชั่วโมง หากเกิน 24 ชั่วโมง จะทำให้เกิดภาวะตับหรือไตวาย ส่งผลให้ผู้รับประทานเห็ดพิษเสียชีวิตได้
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ขอแนะนำว่า หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หลังรับประทานเห็ด ควรรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ผู้ป่วยอาเจียนเอาเศษอาหารที่ตกค้างออกมาให้มากที่สุด แล้วให้รีบนำไปพบแพทย์โดยเร็ว พร้อมทั้งนำตัวอย่างเห็ดและอาหารที่เหลือจากการรับประทานไป เพื่อตรวจวิเคราะห์ด้วย ทั้งนี้ ขอเตือนประชาชนว่าหากไม่แน่ใจ ไม่รู้จัก หรือสงสัยว่าจะเป็นเห็ดพิษ ไม่ควรเก็บหรือซื้อมาปรุงอาหาร ควรเลือกเห็ดจากแหล่งที่มีการเพาะพันธุ์เพื่อความปลอดภัย หลีกเลี่ยงเห็ดจากธรรมชาติ และควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับเห็ด
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
5 ตุลาคม 2564
พงษ์พิพัฒน์ ศรีเกื้อกลิ่น ข่าว/ภาพ ทองสุข โพนเงิน บรรณาธิการข่าว
https://www.facebook.com/photo/?fbid=389926695932370&set=a.105584184366624
|