สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกจังหวัดร้อยเอ็ดมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี จนถึงวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๔ จังหวัดร้อยเอ็ด มีรายงานผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น ๑๒๖ ราย คิดเป็นอัตราป่วย ๙.๖๓ ต่อประชากรแสนคน ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต พบการเกิดโรคใน ๑๒ อำเภอ ๓๘ ตำบล ๗๐ หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๙๒ ของหมู่บ้านทั้งหมด) อำเภอที่มีอัตราป่วยไข้เลือดออกสะสมสูงสุด ๕ อันดับแรก คือ ปทุมรัตต์ จตุรพักตรพิมาน สุวรรณภูมิ ธวัชบุรี และเมืองร้อยเอ็ด พบผู้ป่วยมากที่สุดในกลุ่มอายุ ๑๕- ๒๔ ปี ส่งผลให้จังหวัดร้อยเอ็ด มียอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสมอยู่ในลำดับที่ ๓๑ ของประเทศ และลำดับ ๕ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อาการสำคัญของโรคไข้เลือดออก คือ มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ใบหน้าหรือผิวหนังแดง อาเจียน ปวดท้อง ให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาได้ทันเวลา ก่อนที่อาการจะรุนแรงมากขึ้น และอาจเกิดอาการช็อกทำให้เสียชีวิตได้
การป้องกันโรคไข้เลือดออก โดยการช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ด้วยการใช้ มาตรการ ๓ เก็บ ป้องกัน ๓ โรค ได้แก่ ๑. เก็บบ้านให้โล่ง อากาศปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลาย เกาะพัก ๒. เก็บขยะ เศษภาชนะต่างๆไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย และ ๓. เก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะให้มิดชิด เช่น โอ่ง ไห ขวด ถัง เป็นต้น ไม่ให้ยุงลายวางไข่ ต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย และใช้มาตรการ ๗ ร. ดูแลควบคุมกำจัดลูกน้ำยุงลายให้ครอบคลุมทุกสถานที่ ทุกหน่วยงาน ได้แก่ ๑.โรงเรือน(บ้านเรือน) ๒.โรงเรียน ๓.โรงงาน ๔.โรงพยาบาล ๕.โรงธรรมหรือวัด ๖.โรงแรม และ ๗.สถานที่ราชการ ขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน และเจ้าของสถานที่ทุกแห่งได้ร่วมมือมือใจกันกำกับดูแลไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยให้ดำเนินการรณรงค์ทำความสะอาด และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ก็จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกได้
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๔
พงษ์พิพัฒน์ ศรีเกื้อกลิ่น ข่าว/ภาพ ทองสุข โพนเงิน บรรณาธิการข่าว
https://www.facebook.com/photo/?fbid=367508328174207&set=a.105584184366624
|