|
สาธารณสุขร้อยเอ็ด เตือนโรคตาแดง ยังระบาดไม่หยุด |
|
|
|
|
|
สาธารณสุขร้อยเอ็ด เตือนโรคตาแดง ยังระบาดไม่หยุด
นายแพทย์ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า โรคตาแดงซึ่งเริ่มระบาดในเดือนกันยายน จนถึงตุลาคมยังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นและสูงถึง 476 ราย อำเภอที่มีผู้ป่วยสูงสุดคืออำเภอพนมไพร 73 ราย รองลงมาคือเสลภูมิ 63 ราย โพธิ์ชัย 49 ราย โพนทอง 46 ราย และอำเภอเมืองร้อยเอ็ด 42 ราย จึงแจ้งให้หน่วยงานในสังกัดทุกพื้นที่ดำเนินการเฝ้าระวังและเร่งรัดมาตรการการป้องกันควบคุมโรค รวมทั้งให้สุขศึกษาในโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก เรือนจำ ค่ายทหาร โรงงานและชุมชนแออัด
โรคตาแดง เกิดจากเชื้อไวรัส เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กลุ่มอายุที่ป่วยสูงสุดคือ กลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 5-9 ปี กลุ่มอายุ 65 ปี และกลุ่มอายุ 10-14 ปี โดยเฉพาะในเด็กเล็กเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายรุนแรง แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มแรก อาจติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ โรคตาแดงติดต่อด้วยการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง หรือใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย หลังได้รับเชื้อประมาณ 1 - 2 วัน จะเริ่มมีอาการเคืองตา ปวดตา น้ำตาไหล กลัวแสง มีขี้ตา หนังตาบวม เยื่อบุตาอักเสบ อาจเป็นที่ตาข้างใดข้างหนึ่งก่อน แล้วจึงลามไปที่ตาอีกข้าง และจะหายเองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าดูแลไม่ถูกวิธี อาจเกิดกระจกตาดำอักเสบ ทำให้ปวดตา ตามัวได้
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อมีผู้ป่วยเป็นโรคตาแดงเกิดขึ้นในบ้าน ทุกคนควรล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่ ไม่ควรขยี้ตา อย่าให้แมลงตอมตา ไม่ควรใช้สายตามากนัก ผู้ป่วยควรนอนแยกจากคนอื่นๆ ไม่ควรใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ ผ้าห่ม ปลอกหมอน หากมีอาการปวดตารุนแรง ตาพร่ามัว หรืออาการไม่ทุเลาภายใน 1 สัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา.
ธัญชนก วงษ์หาญ ข่าว
พิมลสิริ มณีฉาย รายงาน |
|
|
|
|
|
|
By : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ฯ (125.26.229.*) 6/11/2009 11:54 AM |
|