วันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2563 คำขวัญในปีนี้คือ WALK TOGETHER : เอดส์อยู่ร่วมกันได้ ไม่ตีตรา มีสาระสำคัญ คือ ทุกคนมีบทบาทสำคัญและมีส่วนร่วมในการก้าวไปด้วยกัน ก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลง เพื่อลดการตีตราและเลือกปฏิบัติต่อผู้มีเชื้อเอชไอวีและเพศภาวะ โดยสร้างความตระหนักและความเข้าใจอย่างถูกต้องว่าเอดส์เป็นเรื่องธรรมดา
สถานการณ์โรคเอดส์ประเทศไทย ปี 2563 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ ประมาณ 472,376 คน มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,855 คนต่อปี (เฉลี่ย 33 คนต่อวัน) เสียชีวิตจากการติดเชื้อเอชไอวี 11,882 คนต่อปี(เฉลี่ย 32 คนต่อวัน) ข้อมูลผู้ติดเชื้อเอชไอวี ในจังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2563 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ ประมาณ 6,117 คน ติดเชื้อรายใหม่ 57 คน เสียชีวิตจากการติดเชื้อเอชไอวี 156 คน ส่วนใหญ่อยู่ใน วัยแรงงานอายุระหว่าง 25-49 ปี อำเภอที่มีรายงานผู้ติดเชื้อเอชไอวีสูงสุด 5 ลำดับแรก คือ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด รองลงมาคือ สุวรรณภูมิ เสลภูมิ โพนทอง และ เกษตรวิสัย
โรคเอดส์คือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี โดยโรคเอดส์จะเกิดขึ้นหลังจากที่ร่างกายได้รับเชื้อเอชไอวีโดยเฉลี่ยเป็นเวลา 8-10 ปี ทำให้ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาวในร่างกายลดลง จนในที่สุดร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันเพียงพอในการป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคภายนอก ทำให้เกิดโรคติดเชื้ออื่น ๆ แทรกซ้อน อาทิเช่น วัณโรค ปอดบวม เชื้อราขึ้นสมอง เป็นต้น
ในปัจจุบันสามารถวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวีได้อย่างรวดเร็ว และให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่มีเชื้อเอชไอวีเพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวีในร่างกาย และป้องกันการดำเนินโรคไปสู่ระยะโรคเอดส์ได้ ตรวจคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งการตรวจทำได้อย่างรวดเร็วใช้เวลารอผลตรวจเพียง 2 ชั่วโมง ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประชาชนสามารถเข้ารับการตรวจเอชไอวีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ปีละ 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง
เชื้อเอชไอวีสามารถพบได้ในเลือด น้ำอสุจิ สารคัดหลั่งจากช่องคลอด น้ำนมของผู้ที่ติดเชื้อ ดังนั้นเมื่อสัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งที่มีเชื้อเอชไอวีผ่านทางเยื่อบุ หรือผิวหนังที่มีบาดแผล ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ โดยหลัก ๆ มี 3 ทางดังนี้ 1. การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย 2.การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ซึ่งพบบ่อยในกลุ่มของผู้ที่เสพสารเสพติด หรือฉีดยาเข้าเส้น และ 3. การรับเชื้อจากมารดาที่ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งมีโอกาสรับเชื้อได้ 3 ช่วง คือ ขณะตั้งครรภ์ ระหว่างคลอด และ กินนมแม่
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
25 พฤศจิกายน 2563
แหล่งข้อมูล : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข |