นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยถึงสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี จนถึงปัจจุบัน จังหวัดร้อยเอ็ด มีรายงานผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 1,493 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 114.09 ต่อประชากรแสนคน ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต มีผู้ป่วยมากที่สุดในกลุ่มอายุ 5-14 ปี อัตราป่วย 443.88 ต่อประชากรแสนคน พบการเกิดโรคใน 20 อำเภอ 163 ตำบล 653 หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ 26.50 ของหมู่บ้านทั้งหมด) อำเภอที่มีอัตราป่วยไข้เลือดออกสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ธวัชบุรี ปทุมรัตต์ เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง และเมืองร้อยเอ็ด ส่งผลให้จังหวัดร้อยเอ็ด มียอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสมอยู่ในลำดับที่ 18 ของประเทศ และ ลำดับ 10 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อาการสำคัญของโรคไข้เลือดออก คือ มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ใบหน้าหรือผิวหนังแดง อาเจียน ปวดท้อง ให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาได้ทันเวลา ก่อนที่อาการจะรุนแรงมากขึ้น และอาจเกิดอาการช็อกทำให้เสียชีวิตได้ หากมีไข้สูงเกิน 2 วัน ไม่ควรซื้อยาทานเองหรือฉีดยาลดไข้ ให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านท่าน
จึงขอเชิญพี่น้องประชาชนร่วมใจกันรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก ด้วยการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย โดยการใช้ มาตรการ ๓ เก็บ ป้องกัน ๓ โรค ได้แก่ ๑. เก็บบ้านให้โล่ง อากาศปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก ๒. เก็บขยะเศษภาชนะต่างๆไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย และ ๓. เก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะให้มิดชิด เช่น โอ่ง ไห ขวด ถัง เป็นต้น ไม่ให้ยุงลายวางไข่ต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
และใช้มาตรการ 7 ร. ดูแลควบคุมกำจัดลูกน้ำยุงลายให้ครอบคลุมทุกสถานที่ ทุกหน่วยงาน ได้แก่ 1.โรงเรือน(บ้านเรือน) 2.โรงเรียน 3.โรงงาน 4.โรงพยาบาล 5.โรงธรรมหรือวัด 6.โรงแรม และ 7.สถานที่ราชการ ขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนและ เจ้าของสถานที่ทุกแห่งได้ร่วมมือมือใจกันกำกับดูแลไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยให้ดำเนินการรณรงค์ทำความสะอาด และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ก็จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกได้
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
28 กันยายน 2563
ทองสุข โพนเงิน/ข่าว/กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ/แหล่งข่าว
|