[ หน้าหลัก ] | [ หน้าข่าวประชาสัมพันธ์ ] | [ ตั้งข่าวประชาสัมพันธ์ ]  

 

 
       

 


ร้อยเอ็ด แถลงข่าว COVID – 19 ครั้งที่ 133
     
 

ร้อยเอ็ด แถลงข่าว COVID – 19 ครั้งที่ 133

วันนี้ (25 กันยายน 2563 ) เวลา 15.00 น. นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานการแถลงข่าวฯ พร้อมด้วย นางสาวสุภาภรณ์ มิตรภานนท์ แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 133 ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

จังหวัดร้อยเอ็ดมีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 25 กันยายน 2563) จำนวน 386 ราย ไม่มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อรายใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 3 ราย (รักษาหายทั้ง 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 383 ราย การค้นหาเชิงรุกผู้ต้องขังแรกรับในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน – 25 กันยายน 2563) จำนวน 671 ราย ไม่มีส่งตรวจรายใหม่ ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 671 ราย

สถานการณ์ทั่วโลกใน 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ (ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม ถึง 25 กันยายน 2563 เวลา 09.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 32,408,504ราย (มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 316,036 ราย) มีผู้เสียชีวิตสะสม 987,724 ราย (มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5,872 ราย) ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 5 ลำดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 7,185,471 ราย เสียชีวิต 207,538 ราย รองลงมา คือ อินเดีย 5,816,103 ราย เสียชีวิต 92, 317 ราย บราซิล 4,659,909ราย เสียชีวิต 139,883 ราย รัสเซีย 1,128,836ราย เสียชีวิต 19,948 ราย และประเทศโคลัมเบีย 790,823 ราย เสียชีวิต 24,924 ราย

สถานการณ์ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 25 กันยายน 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสมจำนวน3,519 ราย มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย (เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine จากสหรัฐอเมริกา 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย และคูเวต 1ราย ) เสียชีวิตสะสม 59 ราย และมียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ในลำดับที่ 136 ของโลก
จากกรณีที่มีรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับไทย โดยเฉพาะประเทศเมียนมาและประเทศมาเลเซียที่ยังพบผู้ป่วยรายใหม่อย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทยผู้ ติดเชื้อรายใหม่ขณะนี้เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังป้องกันในกลุ่มผู้เดินทางเข้าประเทศ ทั้งทางด่านพรมแดนและท่าอากาศยานตามมาตรการอย่างเข้มงวด สำหรับ ด่านพรมแดนได้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังผู้ที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ที่อาจนำเชื้อเข้ามาในประเทศไทย โดยหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารรณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) และร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันโรคในพื้นที่ชายแดน และในจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากแรงงานที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายจะไม่ได้เข้าสู่ระบบการคัดกรอง เฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคตามมาตรการอาจนำเชื้อมาแพร่ให้กับคนในชุมชนได้ ขอให้ช่วยกันสังเกตอาการป่วยของตนเอง และคนรอบข้างอยู่เสมอ หากมีอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก การรับรสและกลิ่นลดลง ภายหลังจากไปในสถานที่ชุมชน หรือสถานที่ที่มีความแออัด ขอให้ไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที

จังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอความร่วมมือทุกคนให้เคร่งครัดในมาตรการป้องกันตนเอง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง อย่าประมาท เพราะเมื่อติดเชื้อมักจะไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการน้อย อาจเกิดการแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยหรือ หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และทุกครั้งที่อยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง เลี่ยงสถานที่แออัด ลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ที่ใช้บริการในแพลตฟอร์มไทยชนะทุกครั้ง เพราะเมื่อพบผู้ติดเชื้อจะสามารถใช้ข้อมูลจากระบบ “ไทยชนะ” ติดตามผู้สัมผัส เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจวินิจฉัย และป้องกันควบคุมโรคต่อไป

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
25 กันยายน 2563

ธีรศักดิ์ คำแก้ว ข่าว
อชิรญา กฤตยาวรกุล ภาพ
ทองสุข โพนเงิน บรรณาธิการข่าว

https://www.facebook.com/photo/?fbid=177871543804554&set=pcb.177871743804534&_rdc=1&_rdr

 
     
      By : ประชาสัมพันธ์  Mail to ประชาสัมพันธ์    (61.90.29.*)  25/09/2020 03:22 PM  
 
 

 
กำหนดหัวหน้ากลุ่มงาน/งาน ...สสจ.ร้อยเอ็ด
 
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ศูนย์คอมพิวเตอร์ โทร. 0-4351-1754 ต่อ 123
The best view at 800x600 pixel 16 bit or better, support with IE 5.0 or later