ร้อยเอ็ด แถลงข่าว COVID 19 ครั้งที่ 111
วันนี้ (24 สิงหาคม 2563 ) เวลา 15.00 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานการแถลงข่าวฯ พร้อมด้วย นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายเจนเจตน์ เจนนาวิน ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์ปิติ ทั้งไฟศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 111 ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด
จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 24 สิงหาคม 2563) จำนวน 379 ราย ไม่มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อรายใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 3 ราย(รักษาหายทั้ง 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 376 ราย การค้นหาเชิงรุกผู้ต้องขังแรกรับในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 24 สิงหาคม 2563) จำนวน 494 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด - 19 จำนวน 494 ราย
สถานการณ์ทั่วโลก ใน 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ (ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม ถึง 24 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 23,583,616 ราย (มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 206,768 ราย) มีผู้เสียชีวิตสะสม 812,513 ราย(มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4,248 ราย) ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 5,874,146 ราย เสียชีวิต 180,604 ราย รองลงมา คือ บราซิล 3,605,783 ราย เสียชีวิต 114,772 ราย และอินเดีย 3,105,185 ราย เสียชีวิต 57,692 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสมจำนวน 3,397 ราย มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย (เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine จาก อินเดีย 1 ราย และกาตาร์ 1 ราย) เสียชีวิตสะสม 58 ราย และมียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ในลำดับที่ 117 ของโลก
จากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในต่างประเทศ ทำให้เห็นว่าหากมีการแพร่ระบาดในโรงเรียน จะต้องมีการกักกันเด็กนักเรียน คุณครู และผู้ปกครอง ซึ่งการติดเชื้อในโรงเรียนจะมีผลกระทบเป็นวงกว้างเสมอ เพราะเป็นการเอาคนมารวมตัวกัน ฉะนั้นเราจะนำบทเรียนมาประยุกต์ใช้กับประเทศไทยเรา คือ การจัดการ ความเสี่ยงกับสถานที่ ได้แก่ สถานที่รับผู้เดินทางไว้สังเกตอาการ สถานที่ที่มีผู้เดินทางจากต่างชาติ แรงงาน ต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย สถานที่ที่มีผู้คนหน้าแน่น การประกอบศาสนกิจขนาดใหญ่ โรงเรียน โรงพยาบาล ถ้าจัดการความเสี่ยงในสถานที่เหล่านี้ให้ดี จะทำให้มีผู้ติดเชื้อเข้าสู่ประเทศ และการระบาดในประเทศ ต่ำที่สุด
มาตรการการดูแลสำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ยังคงเข้มงวดทุกขั้นตอน โดยทุกคนจะต้องถูกกักตัวเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการ นำเชื้อเข้าสู่ประเทศ และหากพบว่าป่วยหรือติดเชื้อจะนำเข้าสู่ระบบการรักษาทันที สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่ได้ คือ ประชาชนทุกคนต้องรักษาวินัยในการป้องกันตนเองทำให้เป็นนิสัย โดยการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน และตลอดเวลาขณะอยู่ในพื้นที่สาธารณะ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว เว้นระยะห่างลดการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัด เมื่อไปใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆ ต้องลงทะเบียนเข้าออก หรือลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม ไทยชนะ รวมถึงผู้ประกอบการ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ยังต้องคงให้ความร่วมมือรักษามาตรการที่รัฐ ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อป้องกันและช่วยรักษาสถานการณ์ให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป แต่หากเกิดการระบาดขึ้น ระบบสาธารณสุขของไทยมีความพร้อมที่สามารถรองรับการดูแลรักษาประชาชนได้ และขอความร่วมมือประชาชน ไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ ไม่เชื่อ ข่าวปลอมที่ไม่ทราบแหล่งที่มา โดยสามารถติดตามข่าวสารที่ถูกต้องเชื่อถือได้ จากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
ขอเชิญชวนชาวร้อยเอ็ดร่วมใจ ใช้ชีวิตวิถีใหม่ ให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19
กินร้อน ช้อนส่วนตัว อยู่ห่างไว้ ใส่แมสกัน หมั่นล้างมือ ถือหลักรักสะอาด ปราศจากแออัด เคร่งครัดไทยชนะ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
24 สิงหาคม 2563
ธีรศักดิ์ คำแก้ว ข่าว/ภาพ
ทองสุข โพนเงิน บรรณาธิการข่าว
https://www.facebook.com/photo/?fbid=169614281296947&set=pcb.169614334630275
|