ผวจ.ร้อยเอ็ด แถลงข่าว COVID 19 ครั้งที่ 84
วันนี้ (13 กรกฎาคม 2563 ) เวลา 15.00 น. นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายเจนเจตน์ เจนนาวิน ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด นายประวุฒิ ละครราช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 84 ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด
จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 13 กรกฎาคม 2563) จำนวน 372 ราย ไม่มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อรายใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 3 ราย (รักษาหายทั้ง 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 369 ราย การค้นหาเชิงรุกผู้ต้องขังแรกรับในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน - 13 กรกฎาคม 2563) ยอดสะสมจำนวน 231ราย ส่งตรวจรายใหม่ 28 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 213 ราย รอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการ 18 ราย
สถานการณ์ทั่วโลกใน 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ (ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม ถึง 13 กรกฎาคม 2563 เวลา 11.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 13,036,587 ราย (มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 194,677 ราย) มีเสียชีวิตสะสม 571,574 ราย (มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3,956 ราย) ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 3,413,995 ราย เสียชีวิต 137,782 ราย รองลงมา คือ บราซิล 1,866,176 ราย เสียชีวิต 72,151 ราย และ อินเดีย 879,466 ราย เสียชีวิต 23,187 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 3,220 ราย มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย และ มียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ในลำดับที่ 100 ของโลก
แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยจะผ่านพ้นการระบาดในระลอกแรกไปแล้วเนื่องจากไม่พบการติดเชื้อในประเทศต่อเนื่องเป็นเวลา 49 วัน และจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 100 ของโลก เป็นผลมาจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนที่ช่วยกันป้องกันตัวเองจากโรคโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทั่วโลกยังพบการระบาดเป็นวงกว้าง และยังมีอีกหลายประเทศที่กลับมาพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนอีกครั้ง อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน (เขตปกครองพิเศษฮ่องกง) เป็นต้น ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง เข้าไปอยู่ในพื้นที่แออัด เช่น สถานบันเทิง ตลาดค้าส่ง
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นเดียวกับเหตุการณ์จากต่างประเทศ จังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการทุกประเภท ตลอดจนพี่น้องประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด และทำให้เป็นนิสัย ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ไม่นำตัวเองไปสัมผัสกับความเสี่ยงต่างๆ เลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่แออัดคนรวมกันจำนวนมาก การเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ที่สำคัญคือเมื่อป่วยต้องอยู่บ้านพักรักษาตัวไม่ไปในสถานที่ต่างๆ ป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น และเคร่งครัดการลงทะเบียนเข้า-ออก สถานที่เข้าใช้บริการในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน ไทยชนะ เพราะเมื่อหากพบผู้ติดเชื้อ จะใช้เป็นข้อมูลในการติดตามผู้สัมผัสนำเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคต่อไป
ในระยะที่ฝนทิ้งช่วง ทำให้เกิดการระบาดของโรคไข้เลือดออกเพิ่มมากขึ้น สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วย 757 ราย มีอัตราป่วย 57.85 ต่อประชากรแสนราย พบการเกิดโรคใน 20 อำเภอ 130 ตำบล 348 หมู่บ้าน(ร้อยละ 14.11 ของหมู่บ้านทั้งหมด) อำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ พนมไพร ธวัชบุรี เมืองร้อยเอ็ด โพธิ์ชัย และ ปทุมรัตต์ จึงขอความร่วมมือเจ้าของอาคารสถานที่ ทุกแห่งทั้งภาครัฐ เอกชน และพี่น้องประชาชนทุกหลังคาเรือน ได้ร่วมกันทำ 3 เก็บอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ คือ 1.เก็บบ้านให้ปลอดโปร่งไม่ให้ยุงเกาะพัก 2. เก็บขยะเศษภาชนะที่อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง 3. เก็บน้ำ โดยปิดฝาภาชนะให้มิดชิด หรือเปลี่ยนน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือปล่อยปลาหางนกยูงในภาชนะใส่น้ำที่ไม่มีฝาปิด
ขอเชิญชวนชาวร้อยเอ็ดร่วมใจ ใช้ชีวิตวิถีใหม่ ให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19
อยู่ห่างไว้ ใส่แมสกัน หมั่นล้างมือ ถือหลักรักสะอาด ปราศจากแออัด เคร่งครัดไทยชนะ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
13 กรกฎาคม 2563
ธีรศักดิ์ คำแก้ว ข่าว/ภาพ
ทองสุข โพนเงิน บรรณาธิการข่าว
https://www.facebook.com/photo/?fbid=158349752423400&set=pcb.158350525756656
|