ผวจ.ร้อยเอ็ด แถลงข่าว COVID 19 ครั้งที่ 80
วันนี้ (7 กรกฎาคม 2563 ) เวลา 15.00 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด นายศฎายุช ไชยะลาด จ่าจังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 80 ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด
จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 7 กรกฎาคม 2563) จำนวน 372 ราย ไม่มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อรายใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 สะสม จำนวน 3 ราย (รักษาหายทั้ง 3 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 369 ราย การค้นหาเชิงรุกผู้ต้องขังแรกรับในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด (ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 17 - 7 กรกฎาคม 2563) จำนวน 161 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 161 ราย
สถานการณ์ทั่วโลกใน 211 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ (ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม ถึง7 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 11,740,110 ราย (มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 171,508 ราย) เสียชีวิตสะสม 540,677 ราย (มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3,583 ราย) ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 3,040,833 ราย เสียชีวิต 132,979 ราย รองลงมา คือ บราซิล 1,626,071 ราย เสียชีวิต 65,556 ราย และ อินเดีย 720,346 ราย เสียชีวิต 20,174 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม จำนวน 3,195 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ เสียชีวิตสะสม 58 ราย และ มียอดผู้ป่วยสะสมอยู่ในลำดับที่ 99 ของโลก
จังหวัดร้อยเอ็ด ขอให้ครูและผู้ดูแลเด็ก ของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ดังนี้ 1. เมื่อพบว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการไข้ ไอ จาม เหนื่อยหอบ ให้หยุดงานทันทีและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด 2. ก่อนการปฏิบัติงานควรเปลี่ยนชุด ล้างมืออย่างถูกวิธีด้วยน้ำและสบู่ สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และให้ความรู้แก่เด็กที่มีอายุมากกว่า 2 ปี ในการใส่การถอดและการเก็บหน้ากากผ้าอย่างถูกสุขลักษณะ 3. สอนเด็กไม่ให้ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นและเก็บรักษาอย่างถูกต้อง 4. ให้ความรู้ คำแนะนำเกี่ยวกับการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ให้แก่ผู้ปกครองและเด็ก 5. ส่งเสริมให้ผู้ปกครองและเด็ก ล้างมืออย่างถูกวิธีด้วยน้ำและสบู่ 6. จัดกิจกรรมสำหรับเด็กเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มย่อยและให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร 7. ดูแลให้เด็กรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการที่ปรุงสุกใหม่ๆและสะอาด เว้นระห่างอย่างน้อย 1 เมตร
ในช่วงหน้าฝน พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องใส่ใจดูแลสุขภาพเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนเป็นพิเศษ เพราะมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายจากโรคติดต่อระหว่างเด็ก เช่น โรคมือ เท้า ปาก โรคไข้หวัดตามฤดูกาล ไข้หวัดใหญ่ ตาแดง อาหารเป็นพิษ และไข้เลือดออก โดยผู้ปกครอง ต้องคอยสังเกตอาการของเด็ก ซึ่งโรคติดต่อที่พบได้บ่อยในเด็ก ช่วงหน้าฝนและหน้าหนาวคือโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ โดยอาการจะมีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดศีรษะ ไอ จาม หรือมีน้ำมูกไหล วิธีป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อคือ ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้แอลกอฮอล์เจล ล้างมือทุกครั้งเวลาดูแลเด็กป่วย สอนให้เด็กเช็ดน้ำมูก และปิดปากปิดจมูกเวลาไอ หรือจาม เป็นต้น หากพบเด็กมี จุดตุ่มแดงอักเสบที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม มีตุ่มหรือผื่นนูนสีแดงเล็ก ๆ ที่ฝ่าเท้าและมีไข้ ซึ่งเป็นอาการของโรคมือ เท้า ปาก วิธีการป้องกันคือล้างมือให้สะอาดหลังการขับถ่าย และดูแลความสะอาดอยู่เสมอ โรคที่ควรเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในศูนย์เลี้ยงเด็กเล็กหรือโรงเรียนคือ โรคตาแดง ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส โดยสามารถติดต่อได้ทางการสัมผัสขี้ตา น้ำตา หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรรีบไปรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน และ หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
ขอเชิญชวนชาวร้อยเอ็ดร่วมใจ ใช้ชีวิตวิถีใหม่ ให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19
อยู่ห่างไว้ ใส่แมสกัน หมั่นล้างมือ ถือหลักรักสะอาด ปราศจากแออัด จัดไปไทยชนะ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
7 กรกฎาคม 2563
ธีรศักดิ์ คำแก้ว ข่าว
อชิรญา กฤตยาวรกุล ภาพ
ทองสุข โพนเงิน บรรณาธิการข่าว
https://www.facebook.com/photo/?fbid=156755692582806&set=pcb.156755862582789
|