สถานการณ์ COVID 19 ร้อยเอ็ด 8 เมษายน 2563
วันนี้ (8 เมษายน 2563 ) เวลา 15.00 น. นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายเจนเจตน์ เจนนาวิน ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์พิทักษ์พงศ์ พายุหะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์ชินวัฒน์ ศรีใส แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์และการดำเนินการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 16 ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด
จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวน 182 ราย พบ ผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 จำนวน 3 ราย (กลับบ้าน 1 ราย / รักษาในโรงพยาบาล 2 ราย) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 173 ราย และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 6 ราย ข้อมูลการติดตามผู้เดินทางมาจากพื้นที่เขตติดโรคติดต่ออันตราย (ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 8 เมษายน 2563) แยกกักกันตัวเองที่บ้านพักจำนวน 140 คน ติดตามเฝ้าระวังครบ 14 วัน จำนวน 118 คน และอยู่ในระหว่างติดตามยังไม่ครบ 14 วัน จำนวน 22 คน ส่วนการติดตามผู้เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดต่อเนื่องจำนวน 29 ประเทศ คุมไว้สังเกตอาการที่บ้านพัก จำนวน 421 คน ติดตามครบ 14 วัน จำนวน 370 คน อยู่ระหว่างติดตามยังไม่ครบ 14 วัน จำนวน 51 คน ข้อมูลผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพ ปริมณฑล และ จังหวัดพื้นที่เสี่ยงอื่น (ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง วันที่ 7 เมษายน 2563 ) ให้แยกตัวสังเกตอาการที่บ้านพัก จำนวน 23,455 คน ติดตามครบ 14 วัน จำนวน 10,573 คน ยังไม่ครบ 14 วัน จำนวน 12,882 คน
สถานการณ์ทั่วโลกใน 205 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ (ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม ถึง 8 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ จำนวน 1,431,689 ราย เสียชีวิต 82,074 ราย ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 400,412 ราย เสียชีวิต 12,854 ราย รองลงมา คือ สเปน 141,942 ราย เสียชีวิต 14,045 ราย และอิตาลี 135,586 ราย เสียชีวิต 17,127 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทย (วันที่ 8 เมษายน 2563) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ จำนวน 2,369 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 111 ราย เสียชีวิต 30 ราย พบ ผู้ป่วยรายใหม่เป็นกลุ่มก้อน คือ ผู้เดินทางกลับมาจากประเทศ อินโดนีเซีย รองลงมา เป็นกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว รวมทั้ง เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และ ผู้ที่มีอาชีพทำงานในพื้นที่แออัด
กลุ่มเปราะบางที่มีโอกาสติดเชื้อโควิด - 19 และอาจมีอาการรุนแรงได้มากกว่าคนกลุ่มอื่น คือ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยทุกโรค และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จึงขอแนะนำให้บุคคลกลุ่มนี้ งดเดินทาง ไม่ควรออกจากบ้าน และไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ กรุงเทพ ปริมณฑล รวมถึงจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้ต้องกักกันตนเองเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน และ ให้อยู่ห่างจากผู้อื่นตลอดระยะเวลาที่มีการกักตัว แยกห้องพักไม่รับประทานอาหารร่วมกับคนอื่น แยกของใช้ส่วนตัวกับคนอื่น และแยกทำความสะอาด สวมหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจล หากมีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง
จังหวัดร้อยเอ็ด ขอให้ทุกครอบครัว เอาใจใส่ดูแล ผู้สูงวัยปลอดโควิด ด้วยการปิดทางแพร่เชื้อไปสู่ท่าน ดังนี้ 1)บุตรหลานที่อยู่ต่างจังหวัด ควรงดเดินทางไปมาหาสู่พ่อแม่ รวมทั้งญาติ 2)บุตรหลานที่ทำงานนอกบ้านกลับถึงบ้านให้รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เว้นระยะห่างจากผู้อื่น 2 เมตร 3) ผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน เลี่ยงการออกนอกบ้าน ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ นาน 20 วินาที หรือใช้แอลกอฮอล์เจล สวมหน้ากากผ้า กินอาหารปรุงสุกใหม่ๆให้แยกสำรับอาหาร ไม่ควรรับประทานอาหารร่วมกัน ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เราทุกคนจะปลอดภัยจากโรคโควิด-19
ล้างมือ กินร้อน ไม่กินร่วม สวมหน้ากากอนามัย อยู่ไกลกัน 2 เมตร โควิดติดง่ายป้องกันไว้กันทุกคน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
8 เมษายน 2563
ธีรศักดิ์ คำแก้ว ข่าว/ภาพ
ทองสุข โพนเงิน บรรณาธิการข่าว
https://web.facebook.com/photo.php?fbid=130093518582357&set=pcb.130093825248993&type=3&theater |