นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า โรคน้ำกัดเท้า หรือ โรคฮ่องกงฟุต เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากเชื้อรา เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้ที่เท้าอยู่ในที่อับชื้นตลอดเวลา หรือเท้าเปียกน้ำหรือลุยน้ำเป็นเวลานาน
อาการของโรคน้ำกัดเท้า
โรคน้ำกัดเท้า มักเกิดตามง่ามมือ ง่ามเท้า พบบ่อยในง่ามนิ้วเท้าที่ 3-5 โดยอาการที่พบบ่อย คือ ผิวหนังจะเริ่มแดง ตกสะเก็ด เป็นแผล บางรายเป็นตุ่มเม็ดเล็กๆ ขึ้นเต็มเท้า ซึ่งเกิดการจากการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ซึ่งจะส่งผลให้โรคมีอาการรุนแรงขึ้น ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ซึ่งโดยปกติเมื่อผิวหนังชั้นนอกลอก และความอับชื้น เป็นสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้เท้ามีกลิ่นเหม็นและมีแผลหนองไหลออกจากแผล แผลบวมแดง มีกลิ่น เป็นแผลเรื้อรังได้
การรักษาโรคน้ำกัดเท้า
รักษาเท้าให้สะอาดและแห้ง ช่วงยังมีแผลไม่ควรสวมรองเท้าปิด หรือ ใส่ถุงเท้า ยกเว้นเมื่อจำเป็น ควรใส่รองเท้าแตะ เมื่อต้องใส่รองเท้า ถุงเท้า หาโอกาสถอดรองเท้าบ่อยๆ เปลี่ยนถุงเท้าบ่อยๆ อย่าให้เปียกชื้น ควรเปลี่ยนรองเท้าเป็นคู่ใหม่ที่แห้งสะอาด ใส่ยาแผลอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ก่อนใสยาล้างเท้า ซอกนิ้วเท้า และแผลให้สะอาดด้วยสบู่อ่อนโยน แล้วเช็ด/ซับให้ ระมัดระวังอย่าเกา เชื้ออาจติดมือ อาจก่อการติดเชื้อกับผิวหนังส่วนอื่นได้ ถึงแม้โอกาสเกิดจะน้อยก็ตาม
ควรพบแพทย์เมื่อ
อาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 -2 สัปดาห์ แผลเลวลงหลังดูแลตนเอง ปวดแผลมาก คันมาก แผลบวมมาก และ/หรือ แผลเป็นหนอง มีไข้ร่วมด้วย โดยเฉพาะเมื่อไข้สูง เมื่อกังวลในอาการ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
6 กันยายน 2562
ทองสุข โพนเงินข่าว
|