วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๒ นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ช่วงนี้สภาพอากาศร้อนมาก อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาโดยเฉพาะโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติของสมองส่วนการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมอง จึงขอแนะนำประชาชนให้อยู่ในที่ร่ม หลีกเลี่ยงแสงแดดจ้า ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อปรับอุณหภูมิของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด มีอาการคือไม่มีเหงื่อออก แม้จะอากาศร้อน หน้าแดง ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน เกร็งกล้ามเนื้อ ชัก มึนงง สับสน รูม่านตาขยาย ความรู้สึกตัวลดน้อยลงอาจหมดสติ หัวใจเต้นเร็วแต่แผ่วเบา ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและทันเวลา อาจทำให้หัวใจหยุดเต้น และถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งแตกต่างจากอาการเพลียแดดทั่วๆไปที่จะมีเหงื่อออกด้วย ผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคฮีทสโตรกคือ ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่อดนอน ผู้ที่ดื่มเหล้าจัด ผู้ที่ทำงานในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นและผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน รวมถึงนักกีฬาและทหารที่เข้ารับการฝึกโดยไม่มีการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมที่จะเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด
การป้องกันโรคฮีทสโตรก คือดื่มน้ำ ๑-๒ แก้วก่อนออกจากบ้าน ในวันที่มีอากาศร้อนจัดควรสวมเสื้อผ้าที่มีสีอ่อน โปร่ง ไม่หนา น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดีและป้องกันแสงแดดได้ และหากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนหรือออกกำลังกลางสภาพอากาศร้อนควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ ๑ ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม และแม้จะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ ๖-๘ แก้ว หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในวันที่อากาศร้อนจัด งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาเสพติดทุกชนิด เด็กเล็ก/ผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษโดยให้อยู่ในห้องที่มีอากาศระบายได้ดี หากพบเจอผู้เป็นโรคฮีทสโตรกสามารถช่วยเหลือเบื้องต้น โดยนำเข้าในที่ร่มให้นอนราบยกเท้าสูง คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่นออกใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบ ตามซอกลำตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ เพื่อระบายความร้อนร่วมกับการใช้พัดลมเป่า ราดน้ำเย็นลงบนตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย ให้ดื่มน้ำหรือน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทน แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
๑๙ เมษายน ๒๕๖๑

ธัญชนก วงษ์หาญ/ข่าว
ทองสุข โพนเงิน/หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์