นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นฤดูร้อนซึ่งสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งเหมาะแก่การเจริญเติบโต และแพร่ระบาดของเชื้อโรคหลายชนิด เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคบิด ไข้รากสาดน้อยหรือไข้ไทฟอยด์ และโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เช่น โรคพิษสุนัขบ้า
จึงขอเตือนประชาชนให้ดูแลตนเอง ระมัดระวังและป้องกันโรคที่มากับฤดูร้อนดังนี้
โรคอุจจาระร่วง เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว และหนอนพยาธิ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป อาการถ่ายอุจจาระเหลวตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป อาจมีมูกปนเลือด/อาเจียนร่วมด้วย
โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากเชื้อ ซาลโมเนลล่า เชื้อรา เห็ด หรือสารเคมีที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร ติดต่อโดยการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน มักพบในอาหารที่ปรุงสุกๆดิบๆ จากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว ไข่ อาหารทะเล อาหารกระป๋อง นมที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อาการ มีไข้ ปวดท้อง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง ซึ่งถ้าถ่ายมากร่างกายอาจขาดน้ำและเกลือแร่ได้ บางรายอาจมีอาการรุนแรงเชื้อเข้าสู่กระแสโลหิตเกิดโลหิตเป็นพิษ อาจเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ
โรคบิด เกิดจากเชื้อ แบคทีเรียหรืออมีบา ติดต่อโดยการรับประทานอาหาร /ผักดิบ/ น้ำดื่มที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป อาการ ถ่ายอุจจาระบ่อย อาจมีมูกปนเลือด มีไข้ ปวดท้องแบบปวดเบ่งร่วมด้วย
อหิวาตกโรค เกิดจากเชื้ออหิวาตกโรคซึ่งเป็นเชื้อ แบคทีเรีย ติดต่อได้โดยการรับประทานอาหาร ดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไป อาการ ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำคราวละมากๆ อุจจาระเหลวเป็นน้ำซาวข้าวอาจมีอาการขาดน้ำและเกลือแร่ อย่างรวดเร็ว กระหายน้ำ กระสับกระส่าย อ่อนเพลีย ตาลึกโหล ผิวหนังเ***่ยวย่น ปัสสาวะน้อย หายใจลึกผิดปกติ ชีพจรเต้นเบาเร็วผู้ป่วยอาจหมดสติ เนื่องจากเสียน้ำมากบางรายมีอาการรุนแรงอาจถึงตายได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
ไข้รากสาดน้อยหรือไข้ไทฟอยด์ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ติดต่อได้โดยอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระและปัสสาวะของผู้ป่วย อาการ มีไข้ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร อาจมีอาการท้องผูก หรือบางรายอาจท้องเสียได้
การป้องกันโรคในฤดูร้อนมีดังนี้
๑. ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุงอาหาร รับประทานอาหาร หลังจากการเข้าห้องน้ำหรือห้องส้วมทุกครั้ง
๒. ดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ๆ ไม่รับประทานอาหารสุกๆดิบๆ และอาหารที่มีแมลงวันตอม
๓. กำจัดขยะมูลฝอย เศษอาหาร และสิ่งปฏิกูลบริเวณบ้านทุกวัน เพื่อมิให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวัน
๔. ถ่ายอุจจาระในส้วมที่ถูกสุขลักษณะ ทุกครั้งเพื่อไม่ให้เป็นการแพร่โรคจากผู้ป่วยได้

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒


ธัญชนก วงษ์หาญ /ข่าว ทองสุข โพนเงิน /หน.ฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์