นายแพทย์ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ตามที่เกิดอาหารเป็นพิษจากการกินส้มตำปูดอง ในช่วงวันที่ 9 – 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ป่วย รวม 124 ราย ใน 3 อำเภอ คือ จังหาร ศรีสมเด็จ และอำเภอเมือง ทำให้เกิดอาการ ปวดท้อง อาเจียน และถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ จากการเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ในผู้ป่วยพบเชื้อ เชื้อ Vibrio parahemolyticus (อ่านว่า วิ-ปริ-โอ พา-รา-ฮี-โม-ไล-ติ-กัส) ไม่พบเชื้อก่อโรคใน แม่ค้า น้ำปลาร้าต้มสุก และปูดอง และปูนานึ่ง

นายแพทย์ภาสกร กล่าวว่า เชื้อ Vibrio parahemolyticus เป็นเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อแบคทีเรีย มีแหล่งธรรมชาติในน้ำทะเลและน้ำกร่อย พบได้ในกุ้ง หอย ปลา และปูหลายชนิด ก่อโรคอาหารเป็นพิษหรือทางเดินอาหารอักเสบ อาการมักปรากฏหลังจากกินเข้าไป 10 ถึง 12 ชั่วโมง เมื่อเข้าสู่ร่างกายเชื้อจะทวีจำนวนขึ้นในลำไส้ เชื้อชนิดสร้างสารพิษมีทั้งสร้างในร่างกาย หรือในอาหารก่อนรับประทาน ทำให้มีอาการท้องร่วงรุนแรง มีอุจจาระเหลวเป็นน้ำมีกลิ่นเหม็นเหมือนกุ้งเน่า มักมีอาการปวดเกร็งที่ท้อง ผู้ป่วยบางรายมีอาเจียนร่วมด้วย บางรายคล้ายเป็นบิด อุจจาระมีมูกเลือด มีไข้ต่ำ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อาการอาจเกิดเฉียบพลัน และรุนแรง

ในช่วงหน้าร้อนเชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้ดี ทำให้มีผู้ป่วยอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ เกิดขึ้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอเตือนมายังผู้บริโภค ให้กินอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินอาหาร ก่อนปรุงอาหาร และหลังออกจากห้องส้วม

ส่วนส้มตำอาหารยอดฮิตของชาวอีสาน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ขอความร่วมมือไปยังทุกร้านให้ปรุงด้วยน้ำปลาร้าต้มสุก และปูนานึ่ง หลีกเลี่ยงการใช้ปูดิบดองเพราะเสี่ยงต่อการเกิดโรคอุจจาระร่วงได้ ส่วนผู้บริโภคขอให้เลือกซื้อร้านที่สะอาด ใช้เครื่องปรุงที่ปลอดภัย และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด.