สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด จัดประชุม “ถอดบทเรียนการตรวจอัลตร้าซาวด์คัดกรองมะเร็งตับและท่อน้ำดี โดย Nurse Sonographer” และประชุม “เชิงปฏิบัติการ การบันทึกข้อมูลการตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อค้นหามะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี”

วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๙ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ห้องประดับเงิน โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้นร้อยเอ็ด นายแพทย์วัชระ เอี่ยมรัศมีกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม“ถอดบทเรียนการตรวจอัลตร้าซาวด์คัดกรองมะเร็งตับและท่อน้ำดี โดย Nurse Sonographer” และประชุม “เชิงปฏิบัติการ การบันทึกข้อมูลการตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อค้นหามะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี”

ผู้เข้าประชุม ประกอบด้วย รังสีแพทย์ ,ศัลยแพทย์ , Nurse sonographer ,เจ้าหน้าที่สารสนเทศ , ผู้รับผิดชอบงานมะเร็งตับและท่อน้ำดีจากโรงพยาบาลและจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ แห่งละ ๑ คน , ผู้ประสานงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด และโรงพยาบาลร้อยเอ็ด รวม ๑๓๐ คน

นพ.วัชระ กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชนและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก และเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของประเทศไทย มะเร็งตับและท่อน้ำดี เป็นกลุ่มมะเร็งที่พบมากที่สุด จังหวัดร้อยเอ็ดพบอัตราตายด้วยโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีสูงสุดของประเทศไทยคือ ๕๙.๒ ต่อแสนประชากร ซึ่งภาพรวมของประเทศคิดเป็นอัตรา ๒๒.๕ ต่อแสนประชากร

เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ ครบ ๗๐ ปี ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ พร้อมทั้ง สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษาและในปีพุทธศักราช ๒๕๖๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายดำเนินการตรวจคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี ด้วยการตรวจอัลตร้าซาวด์ ประชากร อายุ ๔๐ - ๗๕ ปี ใน ๒๗ จังหวัด ซึ่งรวมทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจังหวัดร้อยเอ็ด เป้าหมายในปีงบประมาณ ๒๕๕๙ จำนวน ๒๕,๐๐๐ ราย ดำเนินการทุกอำเภอ โดยมี Nurse Sonographer ให้บริการตรวจอัลตราซาวด์แก่กลุ่มเป้าหมาย ตามอำเภอต่างๆ ภายใต้การควบคุมของรังสีแพทย์

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้จัดประชุมขึ้น วัตถุประสงค์ เพื่อนำความรู้การตรวจอัลตราซาวด์ ไปใช้ในการปฏิบัติงานและให้บริการผู้มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมถึงการบันทึกข้อมูลการตรวจให้ครบถ้วน ถูกต้อง ซึ่งจะนำสู่การพัฒนาระบบบริการด้านโรคมะเร็งต่อไป.
////////////////////////


สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
๑๓ กันยายน ๒๕๕๙



พิมลสิริ มณีฉาย ภาพ/ข่าว
ทองสุข โพนเงิน /หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์