นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เนื่องจากได้มีการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ในสี่จังหวัดคือเชียงใหม่ จันทบุรี เพชรบูรณ์ และบึงกาฬ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอให้ทุกพื้นที่รณรงค์ป้องกันโรคโดยการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนโดยเฉพาะหญิงมีครรภ์ไห้ตระหนักในการป้องกันตนเองอย่าให้ยุงกัด หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่ที่มีการติดเชื้อ และช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งโรคนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงแก่หญิงมีครรภ์ เนื่องจากทำให้เด็กทารกที่เกิดมามีภาวะศีรษะเล็กและสมองฝ่อ รณรงค์ป้องกันโรคอย่างเข้มแข็งโดยใช้ มาตรการ ๓ เก็บ และ มาตรการ ๕ ส. เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสซิกาและโรคไข้เลือดออกช่วงปลายฝนนี้
โรคติดเชื้อไวรัสซิกา เป็นเชื้อไวรัสในตระกูลเฟลวิไวรัส (flavivirus) มีลักษณะคล้ายคลึงกับ ไวรัสเดงกี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก มียุงลายที่มีเชื้อโรคไวรัสซิกาเป็นพาหะ ติดต่อกันได้โดยการถูกยุงที่มีเชื้อโรคกัด อาการของโรค มีไข้ ปวดศีรษะ เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง มีผื่นตามตัว ปวดข้อ อ่อนเพลีย โรคนี้ส่วนใหญ่จะหายได้เองหากรักษาอย่างถูกวิธี ประมาณ ๔ ๕ วัน จะมีความรุนแรงเฉพาะในหญิงมีครรภ์หากติดเชื้อโรคนี้จะทำให้ลูกที่อยู่ในครรภ์มีภาวะศีรษะเล็กและสมองลีบฝ่อได้ การรักษาโรคคือ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ทานยาลดไข้ ดื่มน้ำให้มาก หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า การป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ไม่ให้แพร่เชื้อเป็นวงกว้าง ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมแรงและร่วมใจของทุกหน่วยงาน ทุกชุมชน ทุกหมู่บ้าน บ้าน วัด โรงเรียน และประชาชนทุกคน อีกทั้งต้องมีระบบข้อมูลระบาดวิทยาที่ดี การแจ้งข่าวสารเตือนภัยที่รวดเร็วทันต่อสถานการณ์ความพร้อมของทีมงาน SRRT ทุกพื้นที่ จึงขอเตือนประชาชนทุกคนให้ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสซิกาและโรคไข้เลือดออกโดยอย่าให้ยุงกัดและอย่าให้ยุงเกิด หากอยู่บริเวณที่เสี่ยงต่อการถูกยุงกัดให้ทายากันยุงให้ทั่วตามแขนและขา หมั่นดูแลบ้านและชุมชนให้สะอาดอยู่เสมอ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยใช้มาตรการ ๓ เก็บคือ ๑.เก็บบ้าน ๒.เก็บขยะ ๓.เก็บน้ำ และทำกิจกรรม ๕ ส. บ่อยๆ ก็จะทำให้โรคติดเชื้อไวรัสซิกาและโรคไข้เลือดออกหมดไปจากพื้นที่ได้
ธัญชนก วงษ์หาญ/ภาพและข่าว
ทองสุข โพนเงิน/หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ |