นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เนื่องด้วย วันที่ ๔ กรกฎาคม เป็นวันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในฐานะที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญและพัฒนาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทรงมีปณิธานอันแน่วแน่มั่นคงต่อการทำงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย โดยจัดอบรมให้ความรู้เรื่องการคัดแยกขยะที่ต้นทางแก่บุคลากรในสำนักงาน มอบรางวัลบุคคลต้นแบบด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรม ๕ ส สาธิตการหมักขยะทำปุ๋ยชีวภาพ และได้ประกาศนโยบายเป็นองค์กรต้นแบบด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด สะอาด ปลอดภัย ไร้มลพิษ มีชีวิตชีวา
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดกำลังประสบปัญหาเรื่องการจัดการขยะที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น ที่ทิ้งขยะไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่มีการแยกขยะที่ต้นทางทำให้ขยะมวลรวมที่ต้องดำเนินการกำจัดมีอย่างมากมายมหาศาล ปัจจุบันจังหวัดร้อยเอ็ดมีขยะที่ตกค้างในพื้นที่กระจายตามอำเภอต่างๆประมาณ ๙ แสนตัน อันจะส่งผลให้เกิดพิษภัยต่อสุขภาพได้ ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องช่วยกันลดขยะอันมหาศาลนี้ โดยเริ่มต้นจากหน่วยงานสำนักงานสาธารณสุขก่อน เป้าหมายคือทำหน่วยงานให้เป็นองค์กรต้นแบบด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้ ซึ่งขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดเริ่มมีการแยกขยะบ้างแล้ว เป็นขยะรีไซเคิล ส่วนขยะอันตรายกำลังดำเนินการทำที่จัดเก็บ ส่วนขยะเปียกขยะย่อยสลายได้ซึ่งมีค่อนข้างมากกว่าขยะประเภทอื่นยังไม่ได้รับการจัดการ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายที่บุคลากรสาธารณสุขต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด เพื่อเป็นองค์กรที่สะอาด ปลอดภัย ไร้มลพิษ มีชีวิตชีวา คือ
๑. คัดแยกขยะที่ต้นทางทั้งในครัวเรือน สถานที่ทำงานและในชุมชน
๒. ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า
๓. ไม่เป็นผู้ก่อมลพิษแก่สิ่งแวดล้อม
๔. ดำเนินการ ๕ ส. ในสถานที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง
๕. ไม่ใช้ภาชนะโฟมในการบรรจุอาหาร
๖. เป็นต้นแบบเผยแพร่ความรู้ ประชาสัมพันธ์ ด้านสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมพร้อมทั้งร่วมกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ
ธัญชนก วงษ์หาญ/ภาพและข่าว
ทองสุข โพนเงิน/หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ |