นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เนื่องจากในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ ได้พบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในค่ายทหาร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดจึงขอเตือนประชาชนให้ดูแลสุขภาพเนื่องจากในฤดูฝนจะมีโอกาสพบผู้ป่วยสูงขึ้น โรคไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุที่สำคัญของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน โดยพบอัตราป่วยประมาณร้อยละ ๑๐-๒๐ ของประชากร โดยกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดโรคและมีภาวะโรคแทรกซ้อนได้ง่ายคือ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังและผู้ที่เป็นโรคอ้วน จากข้อมูลการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา คาดประมาณจำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งประเทศ ๗๐๐,๐๐๐ - ๙๐๐,๐๐๐ รายต่อปี และพบผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนเช่นปอดบวมต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ ๑๒,๕๗๕ - ๗๕,๘๐๑ รายต่อปี พบอัตราป่วยตายของโรคไข้หวัดใหญ่มีภาวะแทรกซ้อนสูงถึงร้อยละ ๒.๕ โดยกลุ่มหญิงตั้งครรภ์มีอัตราตายจากโรคไข้หวัดใหญ่ ๐.๗๑ ต่อแสนประชากร และกลุ่มผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังมีอัตราตายสูงถึง ๐.๗๕ ต่อแสนประชากร สำนักงานสาธารณสุขจึงแจ้งเตือนประชาชนทุกคนให้หมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ให้ห่างไกลจากโรคไข้หวัดใหญ่ที่มักมากับฤดูฝนนี้
โรคไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อได้ง่ายทางการหายใจโดยอาจจะได้รับเชื้อที่ปนมาในอากาศ การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อโดยการ ไอ จาม รดกันหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น เช่น โรงเรียน โรงงาน โรงพยาบาล /การสัมผัสฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายของคนป่วย ระยะฟักตัวของโรค ๑ - ๓ วัน อาการมีไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เบื่ออาหารอาจมีภาวะแทรกซ้อนเช่นปอดบวม ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ วิธีการป้องกันคือ หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัดมีคนหนาแน่น หากสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆก่อนรับประทานอาหาร และก่อนเตรียม หรือปรุงอาหาร/หลังขับถ่าย เตือนพี่น้องประชาชนทุกคน/บุคคลกลุ่มเสี่ยง ให้ตระหนักในการดูแลสุขภาพของตนเองให้มากเพื่อที่จะได้ปลอดภัยและห่างจากโรคไข้หวัดใหญ่ และหากพบผู้ป่วยมีไข้สูงเกิน ๗ วัน เจ็บหน้าอก หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆรวมทั้งผู้ป่วยที่มีไข้สูงและมีประวัติการสัมผัสสัตว์ปีก ควรรีบพบแพทย์ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านพร้อมแจ้งข้อมูลการสัมผัสสัตว์ปีก เพราะอาจได้รับเชื้อโรคไข้หวัดนกได้

ธัญชนก วงษ์หาญ/ภาพและข่าว
ทองสุข โพนเงิน/หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์