นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อ Streptococcus suis หรือโรคไข้หูดับ ข้อมูลจาก สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึง ๒๔ เมษายน ๒๕๕๙ พบผู้ป่วย ๖๒ ราย เสียชีวิต ๕ ราย กลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุดคืออายุ ๖๕ ปี ขึ้นไปรองลงมาคืออายุ ๔๕-๕๔ ปี ละ ๓๕-๔๔ ปี ตามลำดับ ภาคที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือภาคเหนือ ลงรองมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาเหตุเกิดจากการรับประทานเนื้อหมูที่ปรุงสุกๆดิบๆ เช่น ลาบ ลู่หมูดิบ หมูกระทะ ปิ้งย่างไม่สุก จิ้มจุ่มที่ต้มไม่สุก สำหรับสถานการณ์ของจังหวัดร้อยเอ็ด พบผู้ป่วย ๑ ราย มีประวัติการชำแหละสุกรที่ป่วยตายโดยไม่ทราบสาเหตุและการรับประทานเนื้อหมูแบบสุกๆดิบๆ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของโรคในวงกว้าง จึงขอความร่วมมือให้ทุกพื้นที่ดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มแข็ง โรคไข้หูดับเป็นโรคติดต่อจากหมูสู่คน จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนให้รับประทานเนื้อหมูที่ปรุงสุกแล้ว/เลือกซื้อเนื้อหมูที่สะอาด หากมีการสัมผัสหมูที่ป่วยหรือรับประทานเนื้อหมูที่สุกๆดิบๆให้พบแพทย์และแจ้งประวัติปัจจัยเสี่ยงด้วย
อาการของโรคไข้หูดับที่พบบ่อยคือ มีไข้สูง เวียนศีรษะ บ้านหมุนทรงตัวไม่ได้ อาจมีการติดเชื้อในกระแสโลหิต อุจจาระร่วง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เหนื่อย หอบ หนาวสั่น คอแข็ง ประสาทหูอักเสบจนหูดับ หรืออาจหูหนวกได้ การรักษาคือให้ยาลดไข้ถ้ามีประวัติสัมผัส กิน เนื้อหมูดิบ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที สำหรับการป้องกันคือ ผู้เลี้ยงหมูหรือผู้ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู ควรสวมเสื้อ รองเท้าบูท สวมถุงมือ หลังเสร็จงานควรรีบอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด สำหรับประชาชนควรเลือกซื้อหมูที่ตลาดสดหรือห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากโรงฆ่าสัตว์ ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ และทุกครั้งที่รับประทานเนื้อหมูต้องปรุงให้สุกและสะอาด สำคัญที่สุดคือต้อง กินสุกและร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ ก็จะทำให้ห่างจากโรคไข้หูดับได้
ธัญชนก วงษ์หาญ/ข่าว
ทองสุข โพนเงิน/หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ |