โรคสุกใสระบาดในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียน
สาธารณสุขร้อยเอ็ด เน้น 3 ร. รู้เร็ว แจ้งเร็ว ควบคุมโรคเร็ว
นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า มีการเกิดระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคสุกใส ในโรงเรียนประถมศึกษา 1 แห่ง และจากการติดตามสถานการณ์โรคสุกใสของจังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 มีรายงานผู้ป่วยโรคสุกใส จำนวน 100 ราย โรคนี้ พบการระบาดในช่วงเดือนมกราคม มีนาคม ของทุกปี
กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 5 - 9 ปี กลุ่มอายุ 10- 14 ปี และกลุ่ม 0- 4 ปี
ส่วนใหญ่พบการระบาดในศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนประถมศึกษา
ปี 2559 พบผู้ป่วยใน 16 อำเภอ อำเภอที่พบผู้ป่วยสูงสุด ในช่วงเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ 2559 คือ อ.จตุรพักตรพิมาน 20 ราย รองลงมา คือ อ.อาจสามารถ 14 ราย อ.เสลภูมิ 13 ราย และ อ. เมืองสรวง 13 ราย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวถึง
สาเหตุของการเกิดโรคสุกใส เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ติดต่อโดยการหายใจเอาละอองเสมหะ น้ำมูกและน้ำลาย หรือ โดยการสัมผัสกับตุ่มหนองของผู้ป่วย ตลอดจนการใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย จึงทำให้เกิดการระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีการรวมกันหนาแน่น เช่น สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียนอนุบาล สถานศึกษา
อาการของโรคสุกใส ระยะแรกหลังติดเชื้อจะมีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร จากนั้นจะมีผื่น แดงตามผิวหนังบริเวณศีรษะ ใบหน้า ลำตัว ต่อมาผื่นจะกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใส ๆ อยู่ข้างในและมีอาการคัน ฐานรอบตุ่มมีสีแดง และตกสะเก็ดภายใน 2 3 วัน ตุ่มเกิดได้ทั่วร่างกาย ขนาดตุ่มไม่เท่ากัน ระยะฟักตัวของโรคประมาณ 10 - 21 วัน ระยะแพร่เชื้อให้คนอื่น ตั้งแต่ 2 วัน ก่อนมีผื่นขึ้น จนกระทั่งถึง 6 วันหลังผื่นขึ้น
การป้องกันโรค โรคนี้ติดต่อได้ค่อนข้างง่ายจากการสัมผัส ควรแยกผู้ป่วยหลีกเลี่ยงไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคสุกใส ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวปะปนกัน และเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก และในชุมชน จึงได้ขอความร่วมมือให้มีการตรวจคัดกรองเด็กทุกวัน หากพบเด็กป่วยขอให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายหรือจนกว่าผื่นตกสะเก็ดหายหมดแล้ว
ส่วนมาตรการควบคุมโรคให้ใช้หลัก 3 ร. คือ รู้เร็ว แจ้งเร็ว และควบคุมโรคเร็ว
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
18 กุมภาพันธ์ 2559
ทองสุข โพนเงิน/ข่าว
ฝ่ายระบาดวิทยา สสจ.ร้อยเอ็ด/แหล่งข่าว
|