นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า โรคไข้เลือดออกเกิดจากยุงลายที่เป็นพาหะชื่อว่า Aedes aegypti ยุงชนิดนี้หากินเวลากลางวัน โดยยุงจะกัดและดูดเลือดผู้ที่มีเชื้อไวรัสแดงกี่ (Dengue virus) ที่กำลังป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้วก็ไปกัดคนใหม่พร้อมกับปล่อยเชื้อให้จากนั้นไม่นานคนใหม่ก็เป็นโรคไข้เลือดออกต่อไป เกิดขึ้นได้กับทุกวัยแต่ถ้าพบในผู้ใหญ่จะมีความรุนแรงมากกว่าในเด็ก อันตรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้หากละเลยต่อการรักษา จึงย้ำเตือนให้ทุกคนตระหนักถึงพิษภัยอันตรายของโรคไข้เลือดออก โดยสามารถป้องกันตนเองได้คืออย่าให้ยุงกัด ให้ทุกคนเริ่มที่บ้านของตนเองหมั่นทำความสะอาดบ้าน ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้หมดไปจากบ้านทุกๆ ๗ วันก็จะปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออกได้
อาการของโรคไข้เลือดออกมีอาการคล้ายโรคไข้หวัด กล่าวคือ มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร มักปวดท้องร่วมด้วย อาการสำคัญคือมักมีไข้สูงเฉียบพลัน ๒ - ๗ วัน มีเลือดออกเป็นจุดๆตามตัว แขน ขา อาจมีเลือดกำเดาออกด้วย อุจจาระมีสีดำเนื่องจากมีเลือดออกในทางเดินอาหาร ช่วงที่อันตรายที่สุดคือช่วงเวลาที่ไข้ลด ภายใน ๔๘ ชั่วโมง บางรายมีความรุนแรงมากอาจถึงขั้นช็อกและเสียชีวิตได้ การรักษาไม่มียาเฉพาะโรค แพทย์จะรักษาตามอาการเท่านั้น
การป้องกันโรคไข้เลือดออกทำได้ง่ายๆดังนี้คือ
๑. ปิดภาชนะที่มีน้ำขัง เช่น โอ่งน้ำ ตุ่มน้ำ ถังเก็บน้ำ หากไม่มีฝาปิดให้คว่ำน้ำทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่
๒. เปลี่ยนน้ำในแจกัน ทุกๆ ๗ วัน
๓. ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะเก็บน้ำไว้ใช้ เช่น โอ่ง ตุ่ม ถังน้ำรวมถึงอ่างบัวและตู้ปลาควรปล่อยปลากินลูกน้ำเพื่อควบคุมลูกน้ำยุงลายไม่ให้แพร่พันธุ์ต่อไป
๔. ใส่เกลือในจานรองขาตู้ โดยใส่เกลือ ๒ ช้อนชา ต่อน้ำ ๒๕๐ มิลลิลิตร จะสามารถควบคุมลูกน้ำได้ ๗ วัน
๕. ปรับสิ่งแวดล้อมในบ้านให้สะอาด โล่ง มีแสงสว่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัด และหมั่นทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทุกๆ ๗ วัน
๖. ควรนอนในมุ้ง หากไม่มีควรใช้ยากันยุงที่สกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันตะไคร้หอมเป็นต้น
๗. หากมีอาการไข้สูงลอยเกิน ๒ วันอย่านิ่งนอนใจให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว

ธัญชนก วงษ์หาญ/ข่าว
ทองสุข โพนเงิน/หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์