นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า การจุดธูปเพื่อบูชาในพิธีกรรมต่างๆ ถือเป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน แต่ภัยเงียบที่แฝงอยู่ในควันธูปนั้นมีพิษร้ายแรงยิ่งสามารถทำให้เกิดโรคต่างๆมากมายหลายโรคเช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งในระบบเลือด มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้พิษของควันธูปอาจทำให้คนที่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ มีอาการกำเริบมากขึ้น จากการวิจัยของสถาบันจุฬาภรณ์ ระบุว่า ในควันธูปจะมีสารเบนซีน บิวทาไดอีน และ พีเอเอช ซึ่งเป็นสารที่ก่อมะเร็งระบบเลือด โดยตรวจคนที่ทำงานเกี่ยวกับควันธูป พบมะเร็งในเลือดและปัสสาวะมากกว่าคนปกติถึง๔ เท่าแต่ยังไม่พบหลักฐานชี้ชัดว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งเนื่องจากควันธูป แต่พบหลักฐานว่าควันธูปมีสารชักนำทำให้เกิดมะเร็งได้ และนอกจากนั้นนักวิจัยไทยยังพบสารเบนโซเอไพรินในสถานที่ที่มีการจุดธูปเป็นประจำอย่างต่อเนื่องสูงกว่าที่ไม่มีการจุดธูปเลยถึง ๖๓ เท่า และพบผู้ที่ใช้ธูปเป็นประจำทั้งวันทั้งคืนเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งถึงร้อยละ ๘๐ เมื่อเทียบกับผู้ไม่ใช้เลย
การป้องกันนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การผลิตธูปในอดีตจะใช้ไม้เนื้อหอม เมื่อเผาไหม้จะเกิดควันธูปค่อนข้างละเอียดไม่ระคายเคืองตาและจมูก แต่ปัจจุบันไม้เนื้อหอมหายากขึ้นผู้ผลิตจึงหันมาใช้ขี้เลื่อยเป็นวัตถุดิบ นำมาผสมกับกาวกว๊ะก่า และกลิ่นหอมที่สกัดจากพืชหรือสารเคมี โดยธูปบางชนิดแต่งกลิ่นธูปและควัน เมื่อจุดแล้วเกิดการเผาไหม้ของเลื่อยและกาว และสารต่างๆจะถูกปล่อยออกมาคล้ายกับที่พบในควันบุหรี่และควันพิษของท่อไอเสียรถยนต์ ในฝุ่นละอองจะมีก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ก๊าซมีเทน ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ และสารก่อมะเร็งหลายชนิด มีฤทธิ์ทำให้ระคายเคืองตาและระบบทางเดินหายใจ แสบตา น้ำตาไหล ระคายเคืองจมูก จาม ไอ ระคายคอ หายใจลำบาก ปวดศีรษะ เหนื่อยล้า ง่วงนอนและหมดสติได้หากสูดดมระยะยาวนาน
การจุดธูปอย่างไรให้ปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการจุดธูปในบริเวณที่อากาศไม่ถ่าย เช่นห้องแอร์ ห้องที่ไม่มีประตูหรือหน้าต่าง
- ใช้ธูปขนาดสั้นแทนธูปขนาดยาวเพื่อให้เกิดควันในระยะเวลาที่สั้นกว่า
- สำหรับศาลเจ้าควรตั้งกระถางธูปไว้นอกอาคารหรือในที่อากาศถ่ายเทสะดวก เมื่อเสร็จพิธีควรดับธูปให้เร็วขึ้น
- กรณีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติในศาสนสถาน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสควันธูปเป็นระยะยาวนาน ล้างมือ/หน้าบ่อยๆ
- หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ให้ใช้หน้ากากอนามัยปิดปาดและจมูก หมั่นทำความสะอาดบ่อยๆเพื่อลดการตกค้างของฝุ่นละอองจากควันธูป และควรตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง
ธัญชนก วงษ์หาญ/ภาพและข่าว
ทองสุข โพนเงิน/หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ |