นายปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เผยว่า ในเทศกาลกินเจที่จะถึง คือช่วงระหว่างวันที่ ๑๓ - ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจะทำบุญถือศีล ด้วยการละเว้นจากการบริโภคเนื้อสัตว์หันมากินผัก ผลไม้ เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นโอกาสดีในการสร้างสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่จะต้องกินให้ถูกหลักโภชนาการ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ในปีที่ผ่านมาพบว่า ๑ ใน ๔ ของผู้ที่เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่กินเจ ไม่สามารถควบคุมอาการได้ เนื่องจากอาหารเจที่จำหน่ายส่วนใหญ่ มักทำจากแป้ง เป็นอาหารทอด ไขมันสูง และเค็ม จึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ขอให้ประชาชนกินเจ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ เพื่อผลดีต่อสุขภาพ ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค และลดการเจ็บป่วยได้ โดยยึดหลักว่า กินเจ อิ่มบุญ อิ่มใจ สุขภาพดีด้วย ๔ ล. ได้แก่ :
๑.ละ กิเลส เลี่ยงการกินเนื้อสัตว์เทียม และหมี่กึง ซึ่งทำมาจากแป้ง
๒.เลือก กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ ข้าวกล้อง ธัญพืช กินเห็ด ถั่วต่างๆ เต้าหู้ ป้องกันการขาดโปรตีน และเพิ่มผัก ผลไม้ให้หลากหลาย หลากสี
๓.ล้าง ผักผลไม้ให้สะอาดตามขั้นตอน ก่อนปรุง ก่อนกิน โดยล้างผ่านน้ำไหล ๒ นาทีตามด้วยการแช่ในสารละลายเกลือ น้ำส้มสายชู ผงฟู ประมาณ ๑๕ นาที หรือน้ำยาล้างผัก แล้วล้างตามด้วยน้ำชะสารละลายออกให้หมด จะขจัดเชื้อโรค และลดการปนเปื้อนสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างลงได้ถึงร้อยละ ๖๐ - ๙๒
๔.ลด อาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม ของทอด อาหารประเภทผัดน้ำมัน ปรุงรสจัด
สำหรับการเลือกซื้ออาหารเจที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย ขอให้ประชาชนสังเกตฉลาก จะต้องมีข้อความเป็นภาษาไทย และแสดงชื่ออาหาร เลขสารบบอาหาร ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิต ผู้แบ่งบรรจุ หรือผู้นำเข้า ส่วนประกอบอาหาร น้ำหนักสุทธิ วันเดือนปีที่ผลิต และหมดอายุหรือควรบริโภคก่อน ส่วนอาหารปรุงเสร็จ ขอให้ซื้อจากร้านและแผงลอยที่มีป้ายอาหารสะอาด รสชาติอร่อย ผู้ปรุง ผู้ให้บริการแต่งกายสะอาด สวมผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม และไม่ใช้มือหยิบอาหาร.
///////////////////////
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๘
พิมลสิริ มณีฉาย ภาพ/ข่าว
ทองสุข โพนเงิน /หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์
|