กรมอนามัยจับมือภาคีเครือข่ายจังหวัดร้อยเอ็ด เร่งคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปาก เผย...วัย ๔๐ ขึ้นไป เข้าข่ายเสี่ยง
เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ ห้องประชุมชั้น ๗ อาคารเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ได้มีพิธีลงนามบันทึกความตกลงร่วมกัน(MOU)ในการคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากเชิงรุกในชุมชน ระหว่าง : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย กับแผนงานวิชาชีพทันตแพทย์ในการดำเนินกงานควบคุมการบริโภคยาสูบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด โรงพยาบาลร้อยเอ็ด โรงพยาบาลชุมชน ๔ แห่ง (รพ.โพนทอง ,รพ.หนองพอก ,รพ.จตุรพักตรพิมาน ,รพ.พนมไพร) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง โดยมีนายพลากร บุญประคอง รอง ผวจ.ร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธี และนายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้กล่าวรายงาน
นายแพทย์สุระ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดทำพิธีพิธีลงนามบันทึกความตกลงร่วมกัน(MOU)ในการคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากเชิงรุกในชุมชน ในครั้งนี้ว่า เพื่อคัดกรองผู้ป่วยมะเร็งช่องปากในระยะแรกให้แก่ประชาชน ซึ่งจะดำเนินการนำร่องใน ๕ อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอหนองพอก อำเภอพนมไพร อำเภอจตุรพักตรพิมาน และอำเภอโพนทอง คัดกรองรอยโรคให้ประชาชน ๕๕,๐๐๐ คน โดย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุข ทันตาภิบาล และทันตแพทย์ ดำเนินการคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากให้ประชาชน ส่งต่อไปรับการวินิจฉัยและรักษาจนครบวงจร อันจะเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นอย่างมาก
ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังพิธีทำMUOว่า ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๖ มะเร็งช่องปากพบมากเป็นอันดับ ๖ ของมะเร็ง ๑๐ อันดับแรกในประเทศไทยและจากข้อมูลของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า มะเร็งช่องปากและคอหอย เป็นสาเหตุการตายอันดับที่ ๔ ของผู้ป่วยมะเร็งเพศชาย โดยกลุ่มเสี่ยงของโรคมะเร็งช่องปากคือ ผู้ที่มีอายุ ๔๐ ปีขึ้นไป ที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า กินหมาก การติดเชื้อ HPV ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งช่องปากจากการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก การอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน การมีภาวะทุพโภชนาการ การกินผักและผลไม้น้อย มีอนามัยช่องปากที่ไม่ดี และครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็ง ผลรายงานโรงพยาบาลร้อยเอ็ด กระทรวงสาธารณสุข พบว่าผู้ป่วยมะเร็งช่องปากเป็นมะเร็งที่ลิ้นมากที่สุด ส่วนใหญ่พบที่ด้านข้างลิ้น โคนลิ้น ใต้ลิ้น รองลงมาคือพื้นช่องปากที่อยู่ใต้ลิ้นเพดานปาก เหงือก กระพุ้งแก้ม และที่พบน้อยที่สุดคือต่อมน้ำลาย หากพบตั้งแต่ระยะแรกจะช่วยให้ผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิตสูง
กิจกรรมในครั้งนี้ มี อสม. ทันตสาธารณสุข ทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน จำนวน ๓๐๐ คน.
/////////////////////////////////////////////////////
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๘
พิมลสิริ มณีฉาย ภาพ/ข่าว
สุขสันต์ อินทรวิเชียร /หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์
|