หมายเหตุ : ข่าวเก่า มาอัพเดทใหม่ ลิ้งก์ : http://203.157.184.6/news_info/view.php?id=1689
สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ห่วงใยประชาชน ถึงพิษจากสบู่ดำอันตรายถึงชีวิต สั่งการทุกสถานบริการ หากพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการรับประทานสบู่ดำ ให้รีบสอบสวนโรคและให้การช่วยเหลือด่วน
นายแพทย์บุญมี โพธิ์สนาม นายแพทย์เชี่ยวชาญ(ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้ส่งเสริมการปลูกสบู่ดำเพื่อเป็นพลังงานเชื้อเพลิงทดแทนใน ๑๗ จังหวัด และจังหวัดร้อยเอ็ด ก็เป็น ๑ ใน ๑๗ จังหวัดดังกล่าว ที่มีการปลูกสบู่ดำ(ภาษาอีสานเรียกว่า หมากเยา) กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในบ้าน โรงเรียนและพื้นที่แปลงเกษตร แต่ไม่ได้เตือนประชาชนถึงอันตรายของสบู่ดำว่ารับประทานไม่ได้ ทำให้มีรายงานผู้ที่ได้รับพิษจากการกินเมล็ดสบู่ดำจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเด็กๆเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากเมล็ดสบู่ดำมีรสมันคล้ายเมล็ดบัวหรือถั่วลิสง พิษเฉียบพลันเมื่อรับประทานเมล็ดสบู่ดำ ในเด็กจะพบว่ามีอาการกระสับกระส่าย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินและขาดน้ำ ส่วนในผู้ใหญ่ กรณีที่เป็นสายพันธุ์ที่มีสารเป็นพิษสูง หากรับประทานเพียง ๓ เมล็ด ก็เป็นอันตรายแก่ระบบทางเดินอาหารได้ สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับพิษจากสบู่ดำ หากยางสบู่ดำถูกผิวหนัง ขอให้รีบล้างน้ำและฟอกสบู่ทันที ส่วนผู้ที่ได้รับพิษจากการกินเมล็ดสบู่ดำเข้าไป การช่วยเหลือเบื้องต้น ให้ดื่มนมจำนวนมาก หรือทำให้อาเจียน เพื่อเอาพิษออกจากกระเพาะอาหารและรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาทันที
ทางด้านกรมควบคุมโรค ได้ให้คำแนะนำสำหรับประชาชน ดังนี้
๑.หากชุมชนหรือโรงเรียนที่ปลูกต้นสบู่ดำไว้ใช้ประโยชน์หรือปลูกไว้สาธิตหรือประกอบการเรียนการสอน ต้องติดป้ายชื่อต้นไม้ไว้ พร้อมคำแนะนำว่าเป็นพืชมีพิษห้ามรับประทานเมล็ด เพราะจะทำให้เกิดอาการกระสับกระส่ายคลื่นไส้อาเจียนท้องเดินและขาดน้ำ ระวังน้ำยางสบู่ดำถูกผิวหนัง เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง บวมแดง ปวดแสบ ปวดร้อนอย่างรุนแรง หากเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบ อาจตาบอดชั่วคราวได้
๒.โรงเรียนควรล้อมรั้วไว้ให้มิดชิด เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน เพราะเด็กเล็กอาจลองชิมเมล็ดสบู่ดำ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
๓.คุณครูและผู้ปกครอง ควรระมัดระวังและแนะนำเด็ก ห้ามนำเมล็ดสบู่ดำมารับประทานอย่างเด็ดขาด
นายแพทย์บุญมี ได้แจ้งเตือนภัยเพื่อป้องกันควบคุมโรคพิษจากสบู่ดำ ถึงประชาชนและเด็กวัยเรียนในพื้นที่ที่มีการปลูกสบู่ดำ โดยสั่งการไปยังสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ให้กระตุ้นเตือนกลุ่มเสี่ยงในการระวังพิษดังกล่าว ทั้งนี้หากสถานบริการใดมีผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการรับประทานสบู่ดำมารับบริการ ให้รีบแจ้งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว(SRRT) ระดับอำเภอดำเนินการสอบสวน และรายงานจังหวัดทราบต่อโดยด่วน.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
๒๘ มกราคม ๒๕๕๖
พิมลสิริ มณีฉาย ภาพ/ข่าว
สุขสันต์ อินทรวิเชียร /หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์
|