สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เตือนภัย เมล็ดสบู่ดำ มีสารพิษอันตราย พิษอาจถึงตาย ห้ามนำมากินอย่างเด็ดขาด เนื่องจากในเมล็ดมีสารพิษเรียกว่าเคอซิน ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาจถึงตาย กำชับผู้ปกครองป้องกันและให้ความรู้บุตรหลาน
นายแพทย์บุญมี โพธ์สนาม นายแพทย์เชี่ยวชาญ(ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก งานระบาดวิทยา โรงพยาบาลเสลภูมิว่า เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๙.๐๐ น. โรงพยาบาลเสลภูมิ ได้รับผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ จำนวน ๑๘ ราย เข้ารับการรักษาที่ตึกผู้ป่วยใน และทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว(SRRT) ได้ออกดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคทันที สรุปรายงานการสอบสวนโรคเบื้องต้น ดังนี้
จากการสอบสวน พบผู้ป่วยจำนวน ๑๘ คน เพศชาย ๙ คน หญิง ๙ คน เป็นนักเรียนชั้น ป.๔ จำนวน ๑ คน ป.๕ ๘ คน ป.๖ ๙ คน อายุระหว่าง ๙-๑๒ ปี เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลเสลภูมิ จำนวน ๑๘ คน อีก ๑ รายไม่มีอาการจึงรับไว้สังเกตอาการและให้กลับบ้าน ผู้ป่วยส่วนใหญ่รับประทานเมล็ดสบู่ดำในวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. โดยมีเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ป.๕ ไปเก็บเมล็ดสบู่ดำจากต้นสบู่ดำ ซึ่งอยู่หลังเตาเผาขยะในโรงเรียนมาแจกให้เพื่อนรับประทาน จำนวนที่รับประทาน ต่ำสุด ครึ่งเมล็ด สูงสุด ๑๐ เมล็ด ผู้ป่วยรายแรกเริ่มป่วยเวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. รายสุดท้ายเริ่มป่วย ๑๙.๐๐ น. อาการที่พบ มี คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน ปวดศีรษะ ปวดท้อง และถ่ายเหลว ผู้ป่วยทั้งหมดอาการดีขึ้นและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ เวลา ๑๑.๐๐ น. ของวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๖
นายแพทย์บุญมี กล่าวเตือนภัย เกี่ยวกับ เมล็ดสบู่ดำว่า ในเมล็ดมีสารพิษอันตราย เรียกว่าเคอซิน(Curcin) ส่วนยางสบู่ดำมีสารพิษชื่อโฟบอล อีสเตอร์ (Phorbal ester) หากน้ำยางถูกผิวหนัง จะเกิดอาการระคายเคือง บวมแดง ปวดแสบ ปวดร้อนอย่างรุนแรง หากเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบ อาจบอดชั่วคราวได้ ทั้งนี้เมล็ดสบู่ดำ ประกอบด้วย น้ำมัน ๓๕-๔๐ เปอร์เซ็นต์ เนื้อ ๕๕-๖๐ เปอร์เซ็นต์ เมื่อเคี้ยวจะทำให้มีรสชาติมันๆ หลังกินประมาณ ๓๐ ๖๐ นาที จะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด รายที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการมือเท้าเกร็ง หายใจเร็ว หอบ ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดปกติ อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยอาการรุนแรงมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไป จึงขอเตือนให้ผู้ปกครอง ให้ระมัดระวังลูกหลาน อย่านำเมล็ดสบู่ดำมากินอย่างเด็ดขาด
เนื่องจากมีรายงานพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการกินเมล็ดสบู่ดำทุกปี โดยเฉพาะในเด็กนักเรียน กรมควบคุมโรค จึงได้แนะนำดังนี้
๑.สำหรับชุมชนที่ปลูกต้นสบู่ดำไว้ใช้ประโยชน์ หรือโรงเรียนที่ปลูกต้นสบู่ดำไว้สาธิต หรือไว้ประกอบการสอน ต้องติดชื่อต้นไม้ไว้ พร้อมคำแนะนำว่าเป็นพืชมีพิษ ห้ามรับประทานเมล็ด ระวังน้ำยางสบู่ดำถูกผิวหนัง เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง บวมแดง ปวดแสบปวดร้อนอย่างรุนแรง หากเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบ อาจตาบอดชั่วคราวได้
๒.โรงเรียนควรล้อมรั้วให้มิดชิด เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน เพราะเด็กเล็กอาจลองชิมเมล็ดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
๓.ครูและผู้ปกครอง ควรระมัดระวัง และแนะนำเด็ก ห้ามนำเมล็ดสบู่ดำมารับประทานอย่างเด็ดขาด
นายแพทย์บุญมี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับพิษจากสบู่ดำ หากยางสบู่ดำถูกผิวหนัง ขอให้รีบล้างน้ำและฟอกสบู่ทันที ส่วนผู้ที่ได้รับพิษจากการกินเมล็ดสบู่ดำเข้าไป การช่วยเหลือเบื้องต้น ให้ดื่มนมจำนวนมาก หรือทำให้อาเจียนเพื่อเอาพิษออกจากกระเพาะอาหาร และรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อไป.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด
๖ มีนาคม ๒๕๕๖
พิมลสิริ มณีฉาย ภาพ/ข่าว
สุขสันต์ อินทรวิเชียร /หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์
|