|
อยู่อาศัยแออัด ไร้สุขอนามัย ระวังติดโรคหิด
สาธารณสุขร้อยเอ็ด ชี้หิดสร้างอุโมงค์ใต้ผิว ติดง่ายแค่เพียงสัมผัส
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า พบการแพร่ระบาดของโรคหิดในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนักเรียนหลายรายมีอาการคันตามผิวหนัง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดและโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ไปดำเนินการควบคุมโรค พร้อมให้สุขศึกษา และแนะนำให้จัดระเบียบที่พักให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อกำจัดตัวหิด และป้องกันการเกิดโรคซ้ำ
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า โรคหิด เป็นโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากตัวหิด ซึ่งเป็นตัวไรเล็กๆ สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าเป็นจุดขาวๆ ติดต่อโดยการสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่เป็นหิด หรือการใช้เสื้อผ้า เครื่องใช้ ที่นอนร่วมกัน เชื้อหิดผสมพันธุ์กันบนผิวหนังของคน โดยตัวเมียจะเจาะอุโมงค์ในชั้นหนังกำพร้า ฟักเป็นตัวอ่อนใน 3-4 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการทางผิวหนังหลังติดเชื้อหิด 2 สัปดาห์ เมื่อร่างกายได้รับการกระตุ้นจากโปรตีนในน้ำลายของตัวหิดจะเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ขึ้น ผู้ป่วยจะมีตุ่มน้ำใสและตุ่มหนอง คัน มักจะพบที่ง่ามนิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อมือ ข้อศอก รักแร้ ก้น อวัยวะสืบพันธุ์ อาการแทรกซ้อนที่สำคัญ ผู้ป่วยมักเกาจนกลายเป็นแผลพุพอง ถ้าติดเชื้อแบคทีเรีย อาจเกิดเป็นโรคไตอักเสบได้
โรคหิดจะติดต่อโดยการสัมผัสจากผู้ป่วยไปสู่คนปกติ การติดต่อมักจะเกิดเมื่อนอนร่วมกันเป็นเวลานาน การร่วมเพศก็มีโอกาสติดเชื้อนี้ และพบการติดต่อโดยการจับมือ ใช้เสื้อผ้า หรือเครื่องใช้ร่วมกัน แม้กระทั่งฝาโถส้วมก็สามารถติดต่อได้ หลังรับเชื้อ 4-6 สัปดาห์จะเกิดอาการคัน โรคหิดจะแพร่ระบาดในคนที่นอนห้องเดียวกัน คนที่อาศัยในที่แออัด เช่น สถานกักขัง สถานสงเคราะห์เด็ก หรือคนชรา โรงเรียน วัด โรคหิดติดต่อได้ง่ายพบได้บ่อย ในทุกเพศทุกวัย .
|
|
|