[ หน้าหลัก ] | [ หน้าข่าวประชาสัมพันธ์ ] | [ ตั้งข่าวประชาสัมพันธ์ ]  

 

 
       

 


อย.เตือนหญิงสาว อย่าหลงเชื่อการฉีดคอนลาเจนเพื่อเสริมความงาม
     
 

ข่าวเรื่อง : อย.เตือนหญิงสาว อย่าหลงเชื่อการฉีดคอนลาเจนเพื่อเสริมความงาม
แหล่งข่าว : กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค อย.

เนื้อข่าว : จากข่าวพริตตี้สาวฉีดคอลลาเจนเสริมสะโพกแล้วช็อกหมดสติ อย. รุดเตือนภัยหญิงสาวที่รักสวยรักงาม ระวังการฉีดสารคอลลาเจน อาจได้รับอันตรายหากฉีดเข้าไปในเส้นเลือดหรือเส้นประสาท ทำให้เส้นเลือดอุดตัน ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอได้ นอกจากนี้สารดังกล่าว อย. ไม่ได้รับขึ้นทะเบียนตำรับยาแต่อย่างใด พร้อมทั้งเตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณารับฉีดสารโบท็อกซ์ และกลูตาไธโอน นอกสถานที่ หากจำเป็นต้องฉีด ควรไปรับบริการยังสถานพยาบาล เพราะหากเกิดการแพ้ ทางสถานพยาบาลจะมีเครื่องมือและยาที่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน รวมทั้ง ควรสอบถามก่อนว่ายาที่ฉีดได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. หรือไม่ และควรได้รับการฉีดจากแพทย์เฉพาะทางที่มีความรู้ด้านกายวิภาค เซลล์วิทยา โครงสร้างใต้ผิวหนัง เพื่อป้องกันตนเองจากการได้รับยาฉีดเกินขนาด และฉีดตรงจุดตามหลักการแพทย์

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากข่าวหน้าหนังสือพิมพ์พบพริตตี้สาวกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราหลังฉีดคอลลาเจนเสริมสะโพกกับหมอเถื่อน นั้น ในเรื่องดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เคยออกข่าวเตือนหญิงสาวหลายครั้งให้ระวังอันตรายจากการฉีดสาร คอลลาเจน ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ และสารกลูตาไธโอน เนื่องจากเป็นการนำสารดังกล่าวมาใช้อย่างไม่เหมาะสม รวมทั้ง มีการตรวจสอบจับกุมผู้ลักลอบฉีดสารดังกล่าวโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง กรณีหญิงสาวตามที่เป็นข่าวจะต้องตรวจสอบก่อนว่าได้รับการฉีดคอลลาเจนจริงหรือไม่ หรือมีการใช้สารแปลกปลอมอื่นใด ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าหญิงสาวรายนี้มีอาการแพ้อย่างรุนแรง ช็อค และหมดสติในที่สุด อย่างไรก็ตาม อย. ขอชี้แจงว่า ยาฉีดคอลลาเจนไม่เคยมีการรับขึ้นทะเบียนตำรับยาแต่อย่างใด เป็นสารที่ยังไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัยเพื่อใช้สำหรับฉีด ซึ่งส่วนใหญ่พบเป็นการลักลอบนำเข้ามาใช้ และนำมาโฆษณาขายและฉีดในราคาถูก ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย สำหรับสารกลูตาไธโอน อย.ไม่ได้มีการรับขึ้นทะเบียนตำรับยากรณีการนำสาร กลูตาไธโอนมาใช้เป็นยาฉีดทำให้ผิวขาว ถือเป็นการใช้ในทางที่ผิด และสารกลูตาไธโอนไม่ได้มีข้อบ่งชี้ในการช่วยทำให้ผิวขาวใสขึ้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ ยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ แพ้อย่างรุนแรง หลอดลมตีบ หายใจติดขัด ความดันโลหิตต่ำ (anaphylactic reaction) หากรักษาไม่ทัน อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

นพ.พิพัฒน์ เลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อไปว่า หากผู้บริโภครายใดมีความประสงค์จะฉีดสารใด ๆ เพื่อเสริมความงาม ควรเข้ารับบริการฉีดกับสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาลตามกฎหมาย หากเกิดอันตรายจากการแพ้ ทางสถานพยาบาลก็จะรับผิดชอบ และมีเครื่องมือทางการแพทย์ พร้อมทั้งยาที่จะช่วยเหลือคนไข้ได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ควรได้รับการฉีดจากแพทย์เฉพาะทางที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างผิวหนัง กายวิภาค เซลล์วิทยา เนื่องจากจะไม่ฉีดให้กระทบเส้นเลือดหรือเส้นประสาท และสามารถรู้ได้ว่าผู้มารับบริการควรได้รับยาฉีดปริมาณเท่าไหร่ หากฉีดกับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ หรือไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง อาจเสี่ยงต่อการฉีดผิดวิธีไม่ถูกทาง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ตามที่มีข่าวปรากฏให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ดังนั้น ขอให้กรณีที่เกิดกับหญิงสาวรายนี้เป็นอุทธาหรณ์ให้ผู้คิดที่จะฉีดสารเสริมความงามเข้าสู่ร่างกายพิจารณาให้ถี่ถ้วน ระมัดระวัง ไม่หลงคารมโฆษณาผลิตภัณฑ์ ราคาถูก และเห็นแก่ความสะดวกในการไปฉีดตามบ้าน ตามรถ ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล ที่สำคัญ ควรสอบถามและขอดูตัวยาที่ใช้ว่ามีการอนุญาตขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อให้ได้ยาที่มีคุณภาพมาตรฐาน หากฉีดยากับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือใช้ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และสถานที่ฉีดยาที่ไม่น่าเชื่อถือ ผลที่ได้อาจไม่คุ้ม เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เช่น เกิดการอักเสบ อาการแพ้ต่างๆ นอกจากจะไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบแล้ว ยังอาจเสียเงินทองจำนวนมากในการรักษาร่างกายด้วย หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย หรือโฆษณา โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงผ่านทางสื่อต่างๆ สามารถร้องเรียนมายังสายด่วน อย. โทร. 1556

พิมลสิริ มณีฉาย /รายงาน

 
     
      By : ประชาสัมพันธ์  Mail to ประชาสัมพันธ์    (1.4.128.*)  21/09/2012 10:09 PM  
 
 

 
กำหนดหัวหน้ากลุ่มงาน/งาน ...สสจ.ร้อยเอ็ด
 
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ศูนย์คอมพิวเตอร์ โทร. 0-4351-1754 ต่อ 123
The best view at 800x600 pixel 16 bit or better, support with IE 5.0 or later