ร้อยเอ็ดคุมเข้ม !!! ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์
วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. นายแพทย์บุญมี โพธิ์สนาม นายแพทย์เชี่ยวชาญ(ด้านเวชกรรมป้องกัน) และทุกภาคส่วน ร่วมพิธีเปิดการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี ๒๕๕๕ ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ หน้าบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีเปิด และนายพิทยา กุดหอม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้กล่าวรายงาน
ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน ได้กำหนดให้ทุกจังหวัดดำเนินการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุพร้อมกันในระหว่างวันที่ ๑๑ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๕ โดยใช้ชื่อช่วงรณรงค์ว่า สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์ มีเป้าหมายการดำเนินการให้สามารถลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ(Admit)ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ เมษายน ๒๕๕๕ ให้ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๕๔ (ปี ๒๕๕๔ อุบัติเหตุเกิดขึ้น ๔๕ ครั้ง บาดเจ็บ ๕๐ คน ตาย ๕ คน) โดยมีแผนการดำเนินงาน ดังนี้
๑.แผนงานที่ ๑ จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๕ ระดับจังหวัดและระดับอำเภอ
๒.แผนงานที่ ๒ จัดตั้งจุดตรวจร่วม/ด่านตรวจร่วม บนเส้นทางสายหลัก สายรอง
๓.แผนงานที่ ๓ การตั้งจุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้าน โดยมอบหมายให้เทศบาล และ อบต. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหัวหน้าชุมชน หมู่บ้าน ภาคประชาชน ตั้งจุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้าน
๔.แผนงานที่ ๔ การตั้งหน่วยสนับสนุน และบริการประชาชนระดับพื้นที่ ได้แก่ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และในวันนี้ ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน มูลนิธิ นักเรียน นักศึกษา และเครือข่ายจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้พร้อมใจกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นพลังสร้างความตระหนัก ให้ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีการตื่นตัวในการที่จะร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดในการใช้รถใช้ถนน ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามกฎหมายและวินัยจราจร ตามมาตรการ ๓ ม. คือ เมาไม่ขับ สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ปลอดภัย มาตรการ ๒ ข. คือ ใบขับขี่ และรัดเข็มขัดนิรภัย และมาตรการ ๑ ร. คือ คือ ขับรถเร็ว รวมทั้งการแซงในที่คับขัน ขี่รถย้อนศร ขับรถฝ่าฝืนไฟแดง และโทรศัพท์ในขณะขับขี่ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและลดความสูญเสีย.
พิมลสิริ มณีฉาย ภาพ/ข่าว
|