โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จัดกิจกรรมวันไตโลก ภายใต้หัวข้อ “บริจาคไต ให้ชีวิตใหม่ ๒ ชีวิต”

เมื่อวันอังคารที่ ๒๗ มี.ค.๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. นายแพทย์ณรงค์ อึ้งตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันไตโลก ปี ๒๕๕๕ ณ หน่วยไตเทียมโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ภายใต้หัวข้อ “บริจาคไต ให้ชีวิตใหม่ ๒ ชีวิต” โดยมีกิจกรรมนิทรรศการให้ความรู้ ฐานเรียนรู้ต่างๆ การตอบปัญหาชิงรางวัล การรับฟังการบรรยายพิเศษจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มผู้ป่วย

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า ปัญหาโรคไตเรื้อรัง รวมทั้งโรคไตวายระยะสุดท้าย เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย เนื่องจากมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก โดยเฉพาะในปัจจุบันมีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายมากกว่า ๓๐,๐๐๐ ราย รัฐต้องสูญเสียทรัพยากรจำนวนมาก ในการดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ โดยปัจจัยที่สำคัญของการที่พบผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายมากขึ้นคือ ผู้ป่วยไม่รู้ว่าป่วยเป็นโรคไตระยะเริ่มแรกที่พอรักษาได้ และผู้ป่วยที่มีโรคเดิมอยู่แล้วดูแลตนเองไม่ถูกต้อง ดังนั้น การจัดการกับปัญหาไตวายเรื้อรัง สำหรับผู้ป่วยที่มีไตวายแล้ว คงต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะการปลูกถ่ายไต ซึ่งเป็นการรักษาที่ดีที่สุด ทำให้ผู้ป่วยแข็งแรงขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตที่ดีขึ้นได้

ทว่าในแต่ละปีมีผู้บริจา***วะเพียงปีละไม่ถึง ๒๐๐ ราย ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากที่ยังรอรับการบริจาคไต และมีไม่น้อยที่เสียชีวิตไประหว่างการรอรับอวัยวะบริจาค ดังนั้น การได้รับอวัยวะจึงเป็นเสมือนการได้รับชีวิตใหม่ โอกาสใหม่ที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขหรือใกล้เคียงคนปกติและหลุดพ้นจากความทรมาน

ตามหลักทางพุทธศาสนา “การบริจา***วะ” ถือเป็น “ทานชั้นสูง” เป็นมหาทาน เรียกว่า “ทานอุปบารมี” ซึ่งสูงกว่าทานบารมีระดับสามัญ คือ การบริจาคทรัพย์สินเงินทองของนอกกาย ถึงจะมากมายแค่ไหนก็อยู่ในระดับนี้ บุญกุศลของการบริจา***วะนี้ จะเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนให้ผู้ตายมีชีวิตใหม่ เป็นผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์และงดงาม ส่วนผู้ที่กลัวว่าการบริจา***วะจะทำให้ชาติหน้ามีร่างกายไม่สมประกอบนั้น ไม่เป็นจริงตามหลักพุทธศาสนา เพราะร่างกายนี้เมื่อชีวิตแตกดับตายไปแล้ว มันก็เป็นของเน่าเปื่อยผุพังไปตามธรรมดา ไม่มีคุณค่าสาระอะไร เป็นแค่ซากหรือเหมือนกับเศษวัตถุ ในทางตรงข้ามบุญกุศลและกุศลจิตต่างหาก ที่จะปรุงแต่งให้ชีวิตหน้ามีรูปกายที่สวยงามและสมบูรณ์ (จากบทสรุปคำให้สัมภาษณ์ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต))

ดังนั้น โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จึงขอเชิญชวนให้คนไทย แสดงความจำนงบริจา***วะ เพื่อการรักษากันมากๆ โดยที่สำคัญที่สุด คือ บอกความตั้งใจไว้กับญาติสนิท เพราะเมื่อถึงเวลานั้นแล้วตัวผู้บริจาคไม่สามารถบอกใครได้ ต้องขึ้นกับการตัดสินใจของญาติสนิทเท่านั้น หรืออีกวิธีหนึ่งคือการสมัครเป็นผู้แสดงความจำนงบริจา***วะ (Donor Card)กับสภากาชาดไทย โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ ๑๖๖๖ หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยไตเทียมโรงพยาบาลร้อยเอ็ด โทร ๐๔๓ – ๕๑๘๒๐๐ – ๕ ต่อ ๒๐๗๒


ฝ่ายประชาสัมพันธ์ รพ.ร้อยเอ็ด /ข้อมูล
พิมลสิริ มณีฉาย /รายงาน