สาธารณสุขร้อยเอ็ด เตือนระวัง ! รู้เท่าทัน โรคไข้ฉี่หนู
นายแพทย์ภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจาก ในระยะนี้ ยังเป็นช่วงฤดูฝน มีฝนตกชุก และน้ำท่วมขัง ทำให้สภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการเกิดการระบาดของโรคฉี่หนู จึงขอเตือนประชาชนให้รู้เท่าทันโรคไข้ฉี่หนู และให้รู้จักระวัง เพราะโรคนี้เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย หากประชาชนไม่ทราบว่าตนเองป่วยหรือป่วยแล้วไม่สนใจไปรับการตรวจรักษา ปล่อยทิ้งไว้นานอาจเสียชีวิตได้
โรคฉี่หนู เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ซึ่งมีหนูเป็นตัวนำเชื้อ โดยเชื้อจะออกมากับปัสสาวะหนู แล้วมาปนเปื้อนในแม่น้ำลำคลอง พื้นที่น้ำขัง พื้นที่ชื้นแฉะ บุคคลที่เสี่ยงต่อการเชื้อโรคฉี่หนู คือ ผู้ที่ลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ เช่น ชาวนา ชาวสวน ผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง เชื้อโรคดังกล่าวสามารถเข้าสู่ร่างกายโดยการไชเข้าทางบาดแผลหรือเนื้อเยื้ออ่อนๆ เช่นง่ามมือ ง่ามเท้า และตา ในขณะแช่น้ำ หรือรับประทานอาหารที่ไม่สะอาดมีฉี่หนูปนเปื้อนในอาหารนั้นๆ อาการของโรค คือ มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะน่องและโคนขา หรือปวดหลัง บางรายอาจมีตาแดง เบื่ออาหาร ท้องเดิน เจ็บคอ หากพบอาการดังกล่าวหลังไปแช่น้ำย่ำโคลนมา ๒ - ๒๖ วัน(โดยเฉลี่ย ๑๐ วัน) ควรนึกถึงน่าจะเป็นอาการของโรคฉี่หนู ไม่ควรหายามารับประทานเอง และควรรีบไปพบแพทย์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านโดยด่วน การป้องกัน ควรหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำ หรือแช่น้ำ หรือโคลนนานๆโดยเฉพาะเมื่อมีบาดแผลตามแขน ขา มือ เท้า ถ้ามีความจำเป็นต้องย่ำหรือแช่น้ำ ควรสวมรองเท้าบู๊ท สวมถุงมือยาง และชำระล้างร่างกายโดยเฉพาะบริเวณบาดแผลให้สะอาดทันทีหลังจากลุยน้ำหรือเมื่อขึ้นจากน้ำ ดูแลที่พักอาศัย บ้านเรือนให้สะอาด ปราศจากสัตว์กัดแทะโดยเฉพาะหนู เก็บกวาด ทิ้งขยะให้มิดชิดไม่เป็นแหล่งอาหารของหนู และรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หรือเก็บอาหารในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด.
พิมลสิริ มณีฉาย ภาพ/ข่าว
|