สา’สุขร้อยเอ็ด จับมือกับ สปสช.เขต ๗ ขอนแก่น เร่งแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับ

นายแพทย์ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ถือว่าเป็นภาระใหญ่ในวงการแพทย์ของไทย พบว่าในชายไทยโรคมะเร็งตับเป็นโรคที่เป็นภาระอันดับ ๔ รองจากโรคเอดส์ อุบัติเหตุจราจร โรคหลอดเลือดในสมอง และโรคเบาหวานเป็นอันดับ ๕ ส่วนหญิงไทยโรคมะเร็งตับเป็นโรคที่เป็นภาระอันดับ ๕ ร องจากโรคเอดส์ หลอดเลือดในสมอง โรคเบาหวาน และโรคซึมเศร้า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ปี ๒๕๕๒ พบว่า การเกิดโรคมะเร็งตับในประเทศไทยส่วนมากเป็นมะเร็งท่อน้ำดีและมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต ๗ ขอนแก่น พบอัตราการติดพยาธิใบไม้ตับ ดังนี้ กาฬสินธุ์ ร้อยละ ๒๗.๔ ขอนแก่น ร้อยละ ๑๔.๒ ร้อยเอ็ด ๑๑.๘ มหาสารคาม ๑๑.๖ อัตราการตายจากมะเร็งตับและท่อน้ำดีต่อประชากร ๑ แสนคน ดังนี้ ร้อยเอ็ด ๕๔.๘ คน กาฬสินธุ์ ๕๐.๙ คน มหาสารคาม ๔๔.๙ คน

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต ๗ ขอนแก่น จัดทำ “โครงการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี จังหวัดร้อยเอ็ด” และจัดประชุมพื้นที่เป้าหมายขึ้นในวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๔ ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการและการดำเนินงานจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๖ จังหวัดขอนแก่น
วัตถุประสงค์เพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีระยะแรกให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง และเพื่อพัฒนารูปแบบหมู่บ้าน-โรงเรียนปลอดพยาธิใบไม้ตับ
พื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการ ๓ อำเภอ ได้แก่ ศรีสมเด็จ ธวัชบุรี และจังหาร แบ่งเป็นพื้นที่ปกติ จำนวน ๑๒ หมู่บ้าน พื้นที่วิจัย จำนวน ๓ หมู่บ้าน โรงเรียน ๖ แห่ง และศูนย์เด็กเล็ก ๖ แห่ง
กิจกรรมดำเนินการ ประกอบด้วย การคัดกรอง การป้องกันส่งเสริมสุขภาพ การรักษาและส่งต่อ และการบริหารจัดการระดับจังหวัด- อำเภอ ในรูปแบบของการสร้างภาคีเครือข่าย อปท. อสม. วัด และโรงเรียน
ระยะเวลาดำเนินการ เดือนสิงหาคม – เดือนธันวาคม ๒๕๕๔

นายแพทย์ภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือด้วยดี ก็จะทำให้จังหวัดร้อยเอ็ด มีหมู่บ้าน- โรงเรียนปลอดพยาธิใบไม้ตับต้นแบบ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายมีพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีที่ถูกต้องเหมาะสม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ชุมชนอื่นๆต่อไป.

พิมลสิริ มณีฉาย ภาพและข่าว