นพ.สสจ.ร้อยเอ็ด นำคณะร่วมพิธีถวายราชสักการะและสดุดีเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช กษัตริย์นักรบและนักพัฒนา
เช้าวันนี้(๑๑ ก.ค.๕๔) เวลา๐๙.๐๐ น. ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด นำคณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสังกัด ร่วมพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดจัดขึ้นเป็นปีแรก โดยนายสถาพร ศิริภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธาน นำส่วนราชการ นักเรียนนักศึกษา ภาคเอกชน และประชาชน วางพวงมาลาถวายราชสักการะและสดุดีเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็นที่ แน่ชัดว่า วัน อาทิตย์ที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๒๓๑ เป็นวันเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และนับถึงปัจจุบันเป็นปีที่ ๓๒๓
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระราชสมภพเมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ.๒๑๗๕ เมื่อทรงพระเยาว์ได้ทรงศึกษาวิชาการแตกฉานมีความเชียวชาญในทุกด้าน ครั้งเมือพระชนมายุ ๒๕ พรรษา ได้เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ องค์ที่ ๒๗ แห่งกรุงศรีอยุธยา พระองค์ได้สถาปนาเมืองลวธานีหรือลพบุรีในปัจจุบันเป็นราชธานีที่สอง และมีพระราชกรณียกิจนานัปการ ทั้งในด้านที่ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้กล้าหาญ ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์ด้วยทศพิธราชธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวกับการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ในยุโรป เช่น โปรตุเกส สเปน ฮอลันดา อังกฤษ ทำให้เกิดผลดีแก่เศรษฐกิจและการค้าขายของไทยเป็นอย่างมาก
พระองค์ทรงดำเนินนโยบายทางการทูตด้วยความรอบคอบ ทรงติดต่อทางการทูตและการค้ากับฝรั่งเศส เพื่อให้ฝรั่งเศสเป็นพันธมิตรกับไทยเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับฮอลันดา ซึ่งมีท่าทีคุกคามไทย นับได้ว่าสมเด็จพระนารายณ์เป็นพระมหากษัตริย์อยุธยามีบทบาทเด่นชัดในด้านการสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมแก่บ้านเมือง พระองค์เสด็จดำรงราชสมบัตินานถึง ๓๒ ปี ทรงประชวรและเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๒๓๑ สิริรวมพระชนมายุได้ ๕๖ พรรษา
ในโอกาสที่วันสวรรคตได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง จังหวัดร้อยเอ็ดโดยทุกภาคส่วนได้ประกอบพิธีสักการะบูชา เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้ำเลิศ.
พิมลสิริ มณีฉาย ภาพและข่าว
|